เราจะทำอะไรกับเยซูที่เรียกว่า พระคริสต์
ผม... อยากจะเร่งรีบขึ้นมาเพราะผมรู้ว่าพวกคุณทั้งหมดเหนื่อยจากการอยู่ในคริสตจักร... (ขอบคุณครับท่าน) การอยู่ในคริสตจักรในวันนี้ ผมอยากจะใช้เวลาเพียงช่วงเวลานี้เพื่อจะแสดงความขอบคุณของผมแก่ บราเดอร์ ดีโมส ชาคาเรียน [จุดว่างบนเทป] ... จำเป็นที่เพนเทคอสต์ต้องเคยอยู่ภายใต้กลุ่มต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันมากด้วย แต่มีสถานที่แห่งหนึ่งที่พวกเรามีสิ่งที่เหมือนกันภายใต้พระโลหิตของพระเยซูคริสต์นั่นคือ พวกเรามีสิ่งที่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามนั่นคือวิธีการของพระเจ้าสำหรับพวกเราที่จะตอบสนอง และไม่มีสถานที่แห่งอื่นที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะตอบสนองมนุษย์ได้นอกจากภายใต้การหลั่งพระโลหิตเท่านั้น
ผมกำลังคิดถึงคืนที่ผ่านมาเกี่ยวกับ บราเดอร์ออรัล โรเบิร์ตส์ เมื่อเขาได้กล่าวคำแถลงการณ์อันอัศจรรย์ที่นี่เกี่ยวกับภายในส่วนที่ลึกที่สุดของเขาน้ำจะพรั่งพรูออกมาเป็นแม่น้ำหลายสาย ผู้ยิ่งใหญ่... เขาได้นำสิ่งนั้นออกจากพุงของเขา ผมเชื่อที่เขากล่าวถึง การไหลของน้ำของแม่น้ำเหล่านี้ พวกคุณเคยสังเกตไหมครับ? มันเป็นแม่น้ำหลายสายของแม่น้ำสายหนึ่ง: แม่น้ำพหูพจน์; น้ำเป็นหนึ่ง ไม่ใช่แม่น้ำหลายสายของน้ำหลายอย่าง แต่เป็นแม่น้ำที่มีน้ำ - พระวิญญาณ โดยพระวิญญาณเดียวกันพวกเราทั้งหมดที่ได้รับบัพติศมาเข้าสู่พระกายเดียวกันออกมาจากพระองค์ที่ไหลพระคุณและความดีของพระเจ้า
และตอนนี้พวกคุณชาวแคลิฟอร์เนีย พวกเราจะอยู่ในรัฐของพวกคุณตั้งแต่สัปดาห์หน้า ผมเชื่อว่าที่นั่นและจากนั้นก็ลงผ่านรัฐจอร์เจีย, หลุยส์เซียน่า, ฟลอริด้า ลงไปจนกว่าพวกเราจะเริ่มต้นในต่างประเทศ ขอพระเจ้าอวยพรพวกคุณอย่างมากครับ ผมขอขอบคุณสาวน้อยผู้เล่นเพลงและผู้ชายที่ดีเหล่านี้ที่ผมได้พบ พี่น้องชายคนใหม่นี้ที่นี่ บราเดอร์ซาโลมอน คิง ผมอาจจะพูดไม่ถูกต้อง ผมอาจจะคิดถึงกษัตริย์ซาโลมอนและจากนั้นกลับกัน นั่นคือยุคนั้นและนี่คือกษัตริย์อีกองค์หนึ่งด้วย นั่นแหล่ะครับ พระโอรสของกษัตริย์ อย่างไรก็ตาม พระโอรสของกษัตริย์ที่แม้จะไม่ได้เป็นกษัตริย์แต่เป็นจอมกษัตริย์
เมื่อผมมองไปที่นี่ มันทำให้ผมนึกถึงตอนลงไปในประเทศเม็กซิโกที่นี่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาในกรุงเม็กซิโกซิตี้ พวกเราอยู่ที่นั่นคืนหนึ่ง มีคนตาบอดคนหนึ่งในคืนก่อนมาอยู่บนเวที ตาบอดสนิทเป็นเวลาหลายปี ผมมองไปที่เท้าของเขา ผมกำลังยืนอยู่ที่นั่นสวมชุดสูทที่ดีชุดหนึ่ง, รองเท้าคู่หนึ่ง และผมมองที่เขา ... เขาเป็นคนตาบอด, ไม่สวมรองเท้า, กางเกงมอมแมม กำลังยืนอยู่ข้างนอกนั่นในสายฝนเพื่อ ... บางทีสามหมื่นคนหรือมากกว่านั้นกำลังยืนอยู่ที่นั่นในสายฝนกำลังพิงกันและกันอยู่ ไม่มีที่นั่ง อยู่ที่นั่นตั้งแต่เช้าตรู่วันนั้นเพียงเพื่อการรอคอยที่จะได้รับในคืนนั้นและมี... ชายตาบอดผู้นี้ที่ได้รับการมองเห็นของเขา
ในคืนถัดไป ... ประมาณสองเท่าของขนาดม้านั่งที่นี่ อะไรก็ตามที่พวกเราจะเรียกมัน เป็นเพียง – บนเวทีก็แค่กองหญ้าที่สูงเกือบเท่าสิ่งที่แขวนผ้าม่าน, ผ้าคลุมไหล่เก่าๆ และเสื้อโค้ตที่พวกผู้คนได้สวมใส่และถูกโยนขึ้น เพียงที่ว่าพวกเราอาจจะสัมผัสมันได้ ส่วนใหญ่ทั้งหมดเป็นพวกคาทอลิก แน่นอนครับ ที่นั่นในกรุงเม็กซิโกซิตี้ และผมได้เข้าไปเป็นพวกโปรเตสแตนต์คนแรกที่เคยมาในภายใต้คำเชิญของฝ่ายทหารนั่นคือจาก นายพลวาลเดซ เพื่อนที่ดีของพวกเราที่นี่ที่กลุ่มนักธุรกิจฟูล ก็อดสเปล
ผมจำคืนนั้นได้ครับ มีเสียงร้องดังมาจากข้างนอก ลูกชายของผมมาหาผมบอกว่า "ผมมีผู้ช่วยอย่างน้อย 150 คนหรือมากกว่ากำลังยืนอยู่ที่นั่น และพวกเขาไม่สามารถควบคุมสาวน้อยชาวสเปนได้ นางมีทารกที่เสียชีวิตแล้วเมื่อตอนเช้าวันนี้" บอกว่า “พวกเขาไม่สามารถให้ผู้หญิงคนนั้นออกไปได้" บอกว่า “นางจะปีนข้ามหลังของพวกเขาและทุกสิ่งทุกอย่าง”
และผมบอกว่า "ดีล่ะ เพียงต่อต้านมัน"
ตอบว่า "ผมไม่มีสิ่งอื่นใดเลยที่จะต่อต้านมัน"
ผมบอกว่า "ให้บัตรอธิษฐานแก่นาง"
ตอบว่า "ผมไม่มีเลยสักใบหนึ่ง พวกเขาแจกหมดแล้ว"
ผมบอกว่า "บราเดอร์มัวร์ ขอให้คุณไปอธิษฐานสำหรับนาง"
ผมบอกว่า "เพราะว่านางไม่รู้จักผม" และผมบอกว่า "คุณไป
อธิษฐานเผื่อนางและผมจะพยายามที่จะอธิษฐานเผื่อสำหรับเสื้อผ้ากองใหญ่นี้ เพียงสักช่วงเวลาหนึ่งครับ"
ในขณะที่ผมกำลังยืนอยู่ที่นั่น ผมมองออกไปที่ผู้ชมอย่างนี้ และเบื้องหน้าผมเป็นทารกน้อยเม็กซิกัน ไม่มีฟัน เพียงแค่ยิ้ม – อยู่ที่ด้านหน้าของผม ผมบอกว่า “รอหนึ่งนาทีครับ, บราเดอร์มัวร์ และพวกเขาได้พาเพื่อนๆห นุ่มสาวเข้ามา ล้มลงกับไม้กางเขนที่อยู่ในมือของนาง ผมบอกผ่านพี่น้องชายที่เป็นล่ามเพื่อจะช่วยให้นางยืนขึ้น
และผมกล่าวว่า "บราเดอร์มัวร์ ผมไม่ทราบว่าสิ่งนี้ใช่หรือไม่ใช่ แต่ผมได้เห็นเด็กทารกน้อยยืนอยู่ที่เบื้องหน้าของผมในนิมิตตอนนี้กำลังยิ้ม "นางอุ้มเขาภายใต้ผ้าห่มลายทางสีฟ้า-ขาวที่เปียกโชกอยู่ ฝนเพิ่งจะตกมันเป็นเวลากลางคืนประมาณ 10:00 น. ทารกเสียชีวิตแล้วในเช้าวันนั้นประมาณแปดหรือเก้าโมงในสำนักงานแพทย์ด้วยโรคปอดบวม และดังนั้นนางจึงได้ยืนอยู่ในสายฝน ผมของนางทั้งหมดปรกลงมาบนใบหน้าของนางและนางก็เป็นเด็กที่น่ารักมาก นางดูเหมือนจะเป็น - อาจจะเป็นบุตรคนแรกของนาง - ในวัยยี่สิบต้นๆ ของนาง และทารกน้อยก็เสียชีวิตแล้ว
ตอนนี้ผมเพียงแค่วางมือของผมบนเขา และผมกล่าวว่า “พระเยซูเจ้า ข้าพระองค์ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ แต่ตามนิมิตที่ข้าพระองค์ได้เห็น ... " ผมไม่ได้กล่าวเกินกว่านั้น และเขาก็เตะและร้องเสียงดังและทารกน้อยก็มีชีวิต! ผมถามบราเดอร์เอสพิโนซ่า ... มีกี่คนครับที่รู้จักเอสพิโนซ่า บราเดอร์เอสพิโนซ่า? เขาเป็นคนเดียวที่ไล่เขาลงไปยังสำนักงานแพทย์ พบว่ามันเป็นความจริง ดูเถิดครับ นั่นแหล่ะครับ เด็กทารกเสียชีวิตแล้วในเช้าวันนั้นเพิ่งได้ลงนามในเอกสาร และดังนั้นตอนนี้พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวกันในวันนี้ ถ้าหากพวกเราเพียงแค่อาจจะมีความเชื่อในพระองค์อย่างเดียวกันนี้ นั่นแหล่ะครับ
พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงส่งความเชื่อของสาวน้อยเม็กซิกันผู้นี้ให้แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในวันนี้เถิด นางได้เห็นชายตาบอดร่างเล็กผู้นั้นได้รับการรักษาเยียวยาให้หายเป็นปกติในคืนก่อนกำลังยืนอยู่ที่ข้างนอกนั่นกับทารกน้อยของนางในลมที่กำลังพัดเย็นอยู่นั้นเป็นปอดบวมและเช้าวันรุ่งขึ้นก็เสียชีวิตในสำนักงานแพทย์ ความคิดแรกของนางเกิดขึ้นมา ถ้าหากว่าพระเจ้าทรงสามารถรักษาตาที่บอดให้หายได้, ทรงสามารถวินิจฉัยความลับของจิตใจได้ ก็ยังคงเป็นพระวจนะของพระเจ้า สำหรับพระวจนะของพระเจ้าวินิจฉัยความคิดทั้งหลายที่อยู่ในจิตใจได้ และนางก็รู้ว่า พระองค์ทรงสามารถมองเห็นความคิดที่อยู่ในจิตใจของนางได้ นางเชื่อพระองค์ และถ้าพระองค์ทรงสามารถทำให้ลาซารัสฟื้นขึ้นมาจากหลุมฝังศพได้ และพระองค์ก็ทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้, วันนี้ และสืบๆ ไปเป็นนิตย์ ... นางมาและพระองค์ประทานรางวัลให้แก่นาง พระบิดา โดยให้ทารกของนางกลับคืนมา เขามีชีวิตอยู่ในวันนี้ ดั่งเช่นที่ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบ ข้าพระองค์ทั้งหลายขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับเรื่องนี้
โปรดทรงอวยพรข้าพระองค์ทั้งหลายในวันนี้เถิด พระบิดา ขอทรงอวยพรผู้คนเหล่านี้ด้วยผ้าเช็ดหน้าเหล่านี้และเสื้อโค๊ตที่วางอยู่ที่นี่ด้วย และขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เสด็จเข้ามาในเวลานี้และขอทรงเจิมพระวจนะของพระเจ้าแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหลายทูลขอในพระนามพระเยซู อาเมน
ผมรู้ว่าพวกคุณจะมีการประชุมเพียงอีกสักครู่หนึ่งหรือ 5 โมงเย็น ผมรู้ครับ และมักที่จะไม่ให้เวลาแก่ผมที่จะได้เริ่มต้น แต่ผมได้รับการดัดแปลงมาจากนั้น ผมคิดว่าตอนนี้ผมได้พยายามอย่างหนักในสัปดาห์นี้ และอาการเจ็บคอนี้ – อาจจะเป็นการทำงานร่วมกันสำหรับการดีก็ได้
ผมบอกคนทั้งหลายในวันก่อนว่าผมมีวิกผม แต่ผมก็ละอายใจที่จะใส่มันเพราะผมตะคอกพวกผู้หญิงอย่างมากเกี่ยวกับผมของพวกนางและผมของผมก็ร่วงไปเพราะกรดคาร์บอลิก และในคืนก่อนที่พวกเขาเปิดประตูนั้นและลมค่อยๆ ก็พัดไปทั่วที่นี่ และผมก็ไม่คิดว่าผมจะได้กลับมาในวันนี้ และผมกล่าวว่า “ถ้า ออรัล โรเบิร์ตส์ อยู่ที่นี่ เขารออยู่ ถ้าเขาจะ“ เขายังไม่ได้ปรากฏให้เห็นเลย ดังนั้นผมจะอ่านข้อพระคัมภีร์และพวกคุณอธิษฐานเผื่อผม
พระธรรมมัทธิว บทที่ 27 เริ่มต้นด้วยข้อที่ 11 ผมอยากจะอ่านครับ ตอนนี้ฟังชัดๆ กับการอ่านพระวจนะ เพราะว่าถ้อยคำของผมเป็นถ้อย คำของคนๆ หนึ่งมันจะผิดพลาดได้ พระวจนะของพระองค์ไม่อาจจะผิดพลาดได้ ดังนั้นตอนนี้ฟังชัดๆ ในขณะที่พวกเราอ่าน
และก่อนที่ ... ในขณะที่พวกคุณกำลังเปิด ผมอยากจะประกาศว่า พี่น้องชายของพวกเรา, ออรัล โรเบิร์ตส์ กำลังจะเดินทางลงไปยังกรุงเยรูซาเล็มในคืนวันศุกร์ถัดไปด้วย ดังนั้นพวกคุณทุกคนต้องการที่จะมา
พวกคุณถามว่า “ที่ไหน?"
ใครบางคนกล่าวว่ารัฐฟลอริด้าเป็นดินแดนพระสัญญา ผมคิดว่าผมเรียกว่าเมืองทูซอน, กรุงเยรูซาเล็ม เมืองฟินิกซ์อยู่ในหุบเขา ดูเถิดครับ และเมืองเยริโคก็เพียงลงไปยังหุบเขาจากกรุงเยรูซาเล็ม ผมไม่เคยจะออกจากที่นี่เหมือนอย่างนั้นผมหรือว่าผมจะ? บราเดอร์ออรัล โรเบิร์ตส์ จะเทศนาคืนวันศุกร์ถัดไป ผมมั่นใจว่าทุกคนยินดีที่จะได้ยินเสียงของเขา พวกเรายินดีที่จะมีพวกคุณ
บทที่ 27 ข้อ 11:
เมื่อพระเยซูทรงยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ?” พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านพูดถูกแล้ว”
แต่เมื่อพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ฟ้องกล่าวโทษพระองค์ พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสตอบประการใด
ปีลาตจึงกล่าวกับพระองค์ว่า “ท่านไม่ได้ยินสิ่งทั้งปวงที่พวกเขาเป็นพยานกล่าวหาท่านหรือ?”
แต่พระองค์ไม่ได้ตรัสตอบสักคำเดียว เจ้าเมืองจึงประหลาดใจยิ่งนัก...
ในช่วงเทศกาล เป็นธรรมเนียมที่เจ้าเมืองจะปล่อยนักโทษคนหนึ่งตามที่ฝูงชนต้องการ
เวลานั้นมีนักโทษอุกฉกรรจ์อยู่รายหนึ่งชื่อบารับบัส
เมื่อทุกคนมาประชุมพร้อมกันแล้ว ปีลาตก็ถามเขาทั้งหลายว่า “พวกเจ้าต้องการให้เราปล่อยคนไหน บารับบัส หรือเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์?”
เพราะคุณรู้แล้วว่าพวกเขามอบตัวพระองค์ไว้เพราะความอิจฉา
ในขณะที่ปีลาตนั่งว่าราชการอยู่นั้น ภรรยาของท่านใช้คนมาเรียนว่า “อย่าพัวพันกับเรื่องของคนชอบธรรมนั้นเลย เพราะว่าวันนี้ดิฉันไม่สบายใจมากเนื่องด้วยความฝันที่เกี่ยวกับคนนั้น”
แต่พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ก็ยุยงฝูงชนให้ขอปล่อยบารับบัส และประหารพระเยซูเสีย
เจ้าเมืองจึงถามพวกเขาว่า “ในสองคนนี้พวกเจ้าจะให้เราปล่อยคนไหน?” พวกเขาตอบว่า “บารับบัส”
ปีลาตจึงถามว่า “ถ้าอย่างนั้น เราจะทำอย่างไรกับเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์?” พวกเขาพากันร้องว่า “ให้ตรึงที่กางเขน”
เจ้าเมืองถามว่า “ตรึงทำไม? เขาทำผิดอะไร?” แต่พวกเขายิ่งร้องว่า “ให้ตรึงที่กางเขน”
เมื่อปีลาตเห็นว่าไม่ได้การ มีแต่จะเกิดความวุ่นวาย ท่านจึงเอาน้ำมาล้างมือ
ต่อหน้าฝูงชน แล้วกล่าวว่า “เราไม่มีความผิดเรื่องความตายของคนนี้ พวกเจ้าต้องรับผิดชอบเอาเองเถิด”
ฝูงชนทั้งหมดก็ร้องว่า “ให้ความผิดเรื่องความตายของเขาตกอยู่กับเราและลูกๆ ของเรา”
ท่านจึงปล่อยบารับบัสให้พวกเขา และเมื่อโบยตีพระเยซูแล้วก็มอบตัวให้ตรึงไว้ที่กางเขน
หัวข้อเรื่องของผมวันนี้ ถ้าหากผมจะเรียกเรื่องนั้นสำหรับสามสิบนาทีถัดไปคือ: พวกเราจะทำอย่างไรกับเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์? และจากนั้นผมอยากจะเทศนาเรื่องนี้ด้วย “พระเยซูในมือของพวกเรา"
ตอนนี้ผมเชื่อว่า เวลาที่เกิดเหตุของพวกเราเริ่มต้นเป็นไปตามประมาณเวลากลางวัน ในห้องโถงการตัดสินของปิลาต และมันก็เป็นครั้งหนึ่งในครั้งที่โศกเศร้าที่สุดและครั้งหนึ่งในครั้งที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์คือ ... ความผิดพลาดที่โศกเศร้าที่สุดที่คริสตจักรเคยทำในประวัติศาสตร์ของพวกเขา พวกเขาได้กระทำมัน และตอนนี้มันก็ถูกโยนเข้าไปยังตักของผู้ปกครองของรัฐทั้งคริสตจักรและรัฐ เพราะพวกเขาเป็นผู้ที่ได้รับการทรงเลือกจากพระเจ้า ทรงเรียกให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และประเทศชาติก็ควรที่จะถูกควบคุมโดยกฎหมายของพระเจ้า และคริสตจักรได้ปฏิเสธให้กับพระเจ้าของพวกเขา แม้ว่าพระองค์ได้ทรงพิสูจน์เป็นอย่างดีมากแก่พวกเขาแล้ว พวกเขาได้เลือกที่จะอยู่กับประเพณีของพวกผู้ปกครองในยุคนั้นมากกว่าที่จะเชื่อถ้อยคำที่ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นและได้รับการเจิมที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับพวกเขาหลายร้อยปีที่ผ่านมา
พวกคุณสังเกตเห็นไหมครับว่า มันยังถูกทำนายว่าพวกเขาจะต้องตาบอด? พวกเขาไม่สามารถเข้าใจในเรื่องนี้และพวกเขาจะต้องตาบอดได้อย่างไร แต่พวกเขาก็เป็น และพวกเขาก็ได้กระทำความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา และวันนี้พวกเขาได้กระทำการแสดงฉากสุดท้ายของมัน และตอนนี้ก็อยู่ในมือของรัฐบาลและตอนนี้รัฐบาลต้องเลือก พวกคริสตจักรได้ปฏิเสธพระองค์แล้ว แม้ว่าพระเจ้าได้ทรงพิสูจน์มาโดยตลอดว่าพระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ของพวกเขา
ตอนนี้ผมอยากจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยก่อนที่พวกเราจะลงไปในเรื่องนี้ครับ ... เป็นข้อความและอื่นๆ ที่ผมมีและที่ผมได้เขียนบันทึกไว้เกี่ยวกับพวกมัน พวกผู้คนเหล่านั้นล้มเหลวที่จะเห็นเรื่องนั้นได้อย่างไร? สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า พวกเขาตาบอด แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขากำลังตาบอด อาจจะยากเท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเมื่อพระคัมภีร์ไบเบิลบอกพวกเราว่า พวกคนยุคนี้เป็นคนน่าสมเพช น่าสังเวช ยากจน ตาบอด และเปลือยกาย ตอนนี้นั่นคือข้อพระคัมภีร์
ตอนนี้พวกคุณบอกพวกเราประชาชนชาวอเมริกันว่า พวกเราตาบอด พวกเราจะบอกพวกคุณทันทีว่า พวกคุณไม่รู้หรือว่า พวกคุณกำลังพูดเกี่ยวกับสิ่งใดอยู่ แต่ผมจะนำพวกคุณไปสู่การทดสอบช่วงบ่ายวันนี้ค้นหาว่าพวกเราเป็นคนตาบอดหรือไม่ และพวกเรามีพระเยซูในการทดสอบช่วงบ่ายวันนี้และพระโลหิตของพระองค์อยู่ในมือของพวกเรา และตอนนี้พวกเราอยากจะเห็นสิ่งที่พวกเรากำลังจะกระทำเกี่ยวกับมัน พวกเราจะกระทำความผิดพลาดโดยไม่มีเหตุผลอย่างเดียวกันกับที่พวกเขาได้กระทำแล้วหรือไม่?
สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นไหมครับ พระองค์ได้ทรงพิสูจน์พระองค์อย่างชัดเจนและทรงกระทำตามที่พระเจ้าตรัสว่า พระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จเป็นพระเมสสิยาห์ ไม่มีคำถามเกี่ยวกับมัน – เพราะพระองค์ประสูติโดยวิธีที่พระเจ้าตรัสว่า พระองค์จะประสูติ พระองค์ทรงถูกปฏิเสธโดยวิธีที่พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงถูกปฏิเสธ พระองค์ได้ทรงพิสูจน์พระองค์เองว่าทรงเป็นพระเมสสิยาห์ เพราะพระเมสสิยาห์ทรงเป็นพระเจ้า พระเมสสิยาห์ หมายถึง "ผู้ที่ได้รับการเจิม” และพระองค์ก็ทรงได้รับการเจิมด้วยความไพบูลย์ของพระกายพระเจ้าที่ทรงสถิตอยู่ในพระองค์
พระองค์มิได้ทรงเป็นเพียงแค่ผู้เผยพระวจนะ แต่พระองค์ทรงเป็นผู้เผยพระวจนะ นอกจากนั้นพระองค์ทรงเป็นมากกว่าผู้เผยพระวจนะ พระองค์ทรงเป็นพระกายของพระเจ้าที่ทรงสถิตอยู่ในมนุษย์ที่รู้จักในฐานะพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าพระบิดาได้ทรงปกคลุมหญิงพรมจารีและทรงสร้างในโลหิตของนางในครรภ์ของนางขึ้นมา, เซลล์เม็ดเลือดที่ได้นำมาซึ่งพระบุตรของพระเจ้า ผู้ที่พระเจ้าทรงสถิตอยู่ภายใน และพระองค์ได้ทรงพิสูจน์พระองค์แก่พวกเขา ดั่งที่พระองค์ตรัสว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ใด แต่พระองค์ไม่เคยตรัสออกมาและบอกพวกเขาว่า “เราเป็นพระบุตรของพระเจ้า" ไม่ ไม่ครับ พวกเขาจะต้องเชื่อเรื่องนั้น พระองค์ตรัสว่า “การงานของเราเป็นพยานว่าเราเป็นผู้ใด"
พระองค์จึงทรงสั่งให้พวกเขาดูในข้อพระคัมภีร์ต่างๆ และดูว่าพวกเขากำลังอาศัยอยู่ในยุคใด แล้วพวกเขาก็จะได้รู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ใด ผมคิดว่ามันจะเป็นภาระหน้าที่ของพวกเราที่จะกระทำเช่นนี้ ในขณะที่พวกเราเห็นการอพยพอื่นๆ ที่อยู่ในมือ ผมคิดว่าพวกเราควรจะดูเพื่อค้นหาข้อพระคัมภีร์ทั้งหลายเมื่อพวกเราเห็นสิ่งต่างๆ เกิดขึ้น
พวกเราสังเกตเห็นแล้วใช่ไหมครับว่า คริสตจักรได้กระทำการตัดสินใจว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะกระทำอะไรกับพระองค์ เหตุใด – เมื่อพระวจนะได้พิสูจน์พระองค์อย่างถูกต้องและการงานของพระองค์พิสูจน์ให้เห็นว่า พระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์หรือไม่? ช่างน่ากลัว, โหดร้าย, ความผิดพลาดดั่งที่คริสตจักรนั้นได้กระทำ และผมแปลกใจว่ามันจะเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าหากพวกเราอาจจะกระทำความผิด พลาดเหมือนกันได้?
พวกเขาได้รับโอกาสสุดท้ายที่จะได้เห็นว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด และจะยอมรับมัน ตอนนี้พวกคุณจะไม่มีโอกาสที่จะยอมรับว่าพระเจ้าทรงส่งผู้ใดมา ดูเถิดครับ ความอดทนของพระองค์ในที่สุดก็หมดไปและจากนั้นพวกคุณข้ามเส้นนั้นระหว่างพระคุณและการพิพากษา ไม่มีอะไรเหลือนอกจากการพิพากษาเมื่อความอดทนของพระเจ้าหมดลงในที่สุด
แต่พวกเขาได้รับโอกาสนี้และได้เห็นพระองค์ทรงพิสูจน์พระองค์เอง ได้เห็นพระองค์ทรงอยู่ที่บ่อน้ำกับหญิงผู้นั้นและทรงบอกนางว่านางมีสามีมาห้าคนแล้ว ได้ทรงเห็นนาธานาเอลขึ้นมายังพระองค์หลังจากที่ฟิลิปได้ไปและนำนาธานาเอลเข้ามาในการทรงสถิตของพระองค์ และพระองค์ได้ทรงกล่าวและตรัสว่า เขาเป็นใครและเขามาจากที่ใด ทรงบอกซีโมนเปโตรว่าบิดาของเขาเป็นใคร และชื่อของเขาคือชื่ออะไร และพวกเขาก็ไม่เคยมีผู้เผยพระวจนะในหลายร้อยปีที่ผ่านมา"
และแม้กระทั่งหญิงโสเภณีเล็กๆ ผู้นั้นก็ยอมรับพระวจนะของพระเจ้า นางไม่ได้ผสมทั้งหมดในบางสิ่งบางอย่าง นาง ... จิตใจของนางไม่ได้เป็นสิ่งทั้งหมดที่พวกเราจะเรียก (ถ้าพวกคุณแก้ตัวการแสดงออก) จากเรื่องนี้ สับวนวุ่นวาย, วิ่งมาที่นี่และวิ่งไปที่นั่น มันเป็นความคิดที่บริสุทธิ์ตราบเท่าที่ได้เกี่ยวข้อง นางกล่าวว่า "พวกเรารู้ว่าพระเมสสิยาห์จะเสด็จมา และนี่คือสิ่งที่พระองค์จะทรงกระทำ"
และพระองค์ตรัสว่า “เราเป็นผู้นั้น"
และทันใดนั้นนางก็วิ่งไปและบอกพวกผู้คนในเมืองว่า “มาดูพระองค์ นี่คือพระเมสสิยาห์ที่แท้จริง"
ทำไมการศึกษาเหล่านั้นและผู้คนในยุคนั้นไม่อาจจะมองเห็นสิ่งนั้นได้เล่าครับ? มันจะเป็นเรื่องยากที่จะเห็น ถ้าพวกคุณอาจจะไม่รู้ข้อพระคัมภีร์ทั้งหลาย แต่ข้อพระคัมภีร์กล่าวว่าพวกเขาตาบอด พวกเขาก็ตาบอดจริงๆ แต่พวกเขาชอบที่จะเลือกแทนที่พระเยซูที่น่ารักผู้นั้นมากกว่า ... พวกเราได้ยินเสียงร้องออกมาว่า “ให้ตรึงเขา!"
ปีลาตจึงถามว่า “ถ้าอย่างนั้น เราจะทำอย่างไรกับเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์?”
พวกเขาพากันร้องว่า “ให้ตรึงที่กางเขน”
เจ้าเมืองถามว่า “ตรึงทำไม? เขาทำผิดอะไร?” แต่พวกเขายิ่งร้องว่า “ให้ตรึงที่กางเขน”
“พวกท่านจะให้เราปล่อยคนไหน? บารับบัสหรือพระเยซู? "
และพวกเขาได้กระทำความผิดพลาดโดยการเลือกฆาตกรแทนผู้ประทานชีวิตโดยไม่มีเหตุผล ผู้ที่ได้ทรงพิสูจน์ว่าเป็นผู้ประทานชีวิต พวกเขาเลือกฆาตกรผู้ที่ได้พิสูจน์ว่าเป็นผู้ทำลายชีวิต ช่างตรงกันข้าม!
และผมแปลกใจถ้า ... ผมพูดเรื่องนี้กับผู้ที่เคารพบูชาพระเจ้าทุกคนสำหรับพี่น้องชายและพี่น้องหญิงของผม และสำหรับพวกบุรุษและพวกสตรีในวันนี้ที่ผมเทศนาด้วยความรักในจิตใจของผมสำหรับทุกคนครับ ผมแปลกใจว่าถ้าหากพวกเราไม่พร้อมที่จะเห็นสิ่งเดียวกันกับที่พวกเขาได้เห็นแล้ว รัฐบาลได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้และปัญหาก็คงอยู่ คำถามต้องได้รับคำตอบ มันอยู่ที่การแสดง ดังนั้นมันมีมาในวันนี้ ดังนั้นมันจึงเป็น ณ เวลานี้ การแสดงคงอยู่ บางสิ่งบางอย่างต้องถูกกระทำให้สำเร็จ พวกคุณจะต้องพูดว่า "ใช่" หรือ "ไม่"
แต่จำได้ไหมครับว่า มันจะไม่เป็นเมื่อคุณถูกบังคับให้ทำมัน คุณต้องทำมันในขณะที่เจตจำนงของคุณเป็นอิสระตอนนี้ในเวลานี้! ไม่ใช่เมื่อเวลานั้นเกิดขึ้น; เมื่อมันเป็น มันจบ ในขณะนี้! นี่อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่คุณจะมีเวลาที่จะเลือก คุณมิอาจจะทำมันได้แล้ว คุณได้เข้ามาจากนั้นมันก็ไกลเกินไปแล้วในเวลานั้น พวกคุณต้องทำมันในเวลานี้!
อย่ารอจนถึงนาทีสุดท้ายเพราะเรือจะออกไปและปล่อยคุณ ประตูจะปิด หลายคนจะได้เข้ามาในเรือ ถ้าพวกเขาอาจจะได้เข้าไปในที่นั่น เมื่อฝนเริ่มตก แต่ประเด็นสำคัญคือ พระกิตติคุณได้เทศนา หมายสำคัญทั้งหลายได้ถูกแสดงให้เห็น และเวลาได้หมดลง ฝนก็ตก การพิพากษาได้เกิดขึ้น
ตอนนี้ทั้งประเทศชาติต้องปฏิเสธพระองค์เพราะมันได้ถูกเรียก (ถ้าพวกเราจะบอกว่า วันนี้เป็นประเทศคริสเตียน เหมือนสิ่งนี้ที่ถูกเรียกว่า ประเทศคริสเตียน) ดังนั้นถ้ามันถูกเรียกว่า ประเทศของพระเยโฮวาห์, ประชากรที่ได้รับการทรงเลือกของพระองค์ ดังนั้นทั้งประเทศปฏิเสธพระองค์ คริสตจักรได้ปฏิเสธพระองค์ คริสตจักรได้เขี่ยพระองค์ออกไป พวกเขาไม่อยากจะทำอะไรกับพระองค์ แต่ตอนนี้รัฐบาลได้เข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นมันกลับมาอีกครั้งหนึ่ง มันได้กลับมาบนตักอีกครั้งกับข้อพระคัมภีร์ทั้งหลายที่ตั้งอยู่ที่นี่ กำลังพิสูจน์สิ่งที่พระเยซูตรัสว่าจะเกิดขึ้น เหตุใดพวกเราซวนเซไปในชั่วโมงแห่งความมืดนี้หรือครับ? เหตุใดพวกเราปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแก่พวกเราเมื่อพวกเราได้รับการเตือนมาโดยตลอด? เช่นเดียวกับที่มันเป็นในยุคของโลท” พวกเราเห็นสิ่งเดียวกันจริงๆ พระเยโฮวาห์ได้ทรงกำหนดสถานที่เกิดเหตุและทรงบอกกับพวกเราว่า "มันเป็นในยุคของโลท" พวกคุณเห็นเหล่าทูตสวรรค์ที่โน่นเข้าไปในเมืองบาบิโลนพยายามที่จะนำโลทออกมา และพวกคุณจะเห็นคำเทศนาที่ไปยังอับราฮัมผู้ที่ได้รับการทรงเลือกที่ได้ออกมาแล้ว และทุกสิ่งทุกอย่างที่ตรงกันกับชื่อ, สถานที่และเวลา มันได้ถูกระบุไว้มาโดยตลอด
แต่ตอนนี้มันอยู่ในมือของรัฐบาล รัฐบาลต้องตัดสินในขณะนี้และพวกเขากำลังจะกระทำมัน พวกคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับว่า มันเป็นประเทศคริสเตียน มันจะต้องใช้บนพื้นฐานของคริสเตียนถ้ามันเป็น ... การแสดงเกิดขึ้น
คนทั้งชาติจะต้องถูกนำเข้าสู่การพิพากษาเพราะ ... มันได้เกิดขึ้นแล้วประมาณ ค.ศ. 70 เมื่อนักรบโรมันผู้ยิ่งใหญ่ติตัสได้ปิดล้อมกรุงเยรูซาเล็มประมาณ ค.ศ. 70 ด้วยกองทัพของเขาจากกรุงโรม และที่นั่นพวกเขาได้จ่ายราคาสำหรับการปฏิเสธพระองค์
วันนี้ในขณะที่พวกเรามองไปที่การทดลองนั้นที่นั่น และพวกเราออกไปที่นี่และลอกเลียนแบบมันในรูปแบบที่แตกต่างกันในการทดลองในวันศุกร์ประเสริฐ และพูดคุยเกี่ยวกับมันและสิ่งต่างๆ และสิ่งเดียวกันจริงๆ ที่พวกเราจะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ประเสริฐที่อยู่ ณ ใต้จมูกของพวกเราวันนี้ และพวกผู้ปกครองของพวกเราจะกระทำในสิ่งเดียวกันกับที่พวกเขาได้กระทำ การนำมันไปยังในการทดลองที่คล้ายกัน หลังจากถ้อยคำสัญญาที่คล้ายกันในวันนี้ได้รับการพิสูจน์ให้เห็น-เช่นเดียวกับที่ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นที่นั่น ในฐานะพระเยซูที่ทรงเป็นเด็กช่างไม้ทั่วไป (คิดว่าอย่างนั้น) ... พระองค์ทรงเป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ได้รับการสำแดง และพระองค์ทรงได้รับการพิสูจน์มาโดยตลอดเพราะพระราชกิจของพระเจ้าได้รับการสำแดงด้วยพวกมันเองผ่านพระองค์และได้พิสูจน์ให้เห็นว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า
และในวันนี้กรณีที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมายังพวกเราในยุคสุดท้าย และได้ทรงพิสูจน์พระองค์เองในคริสตจักรของพวกเรา และได้ทรงพิสูจน์พระราชกิจเดียวกันที่พระองค์ทรงได้กระทำเมื่อพระองค์ทรงอยู่ที่นี่อย่างเต็มล้นในพระเยซูคริสต์ ... พระองค์ได้ทรงกระทำสิ่งเดียวกันแก่เจ้าสาว ทรงกระทำในสิ่งเดียวกัน และพวกเรายังคงต้องการที่จะกำจัดพระองค์ จำครับว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเทปที่บันทึกไว้ตอนนี้ที่ไปทั่วโลก ไม่เพียงแค่เมืองฟินิกซ์ที่นี่เท่านั้น ผมพูดถึงครึ่งหนึ่งของโลกในเวลานี้เพราะพวกเรามีพันธกิจเทปที่จะไปทั่วโลก
สังเกตไหมครับว่า วันนี้พวกเรามีการทดลองที่คล้ายกันหลังจากพระวจนะเดียวกันที่ระบุไว้ในพระธรรมฮีบรู บทที่ 13 ข้อ 8 "พระเยซูคริสต์ทรงเป็นเหมือนเดิมเมื่อวานนี้, วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์"
พระธรรมยอห์น บทที่ 14 ข้อ 12: "คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้วย"
พระธรรมมัทธิว บทที่ 28: " ... จงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน"
"อีกหน่อยหนึ่งโลกก็จะไม่เห็นเรา แต่พวกคุณจะเห็นเรา เราจะอยู่กับคุณทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค"
"พระเยซูคริสต์ทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้, วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์"
พวกเขาได้เลือกวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นฆาตกรเท่านั้น แต่เป็นฆาตกรของพระวจนะ บริวารกับการฆาตกรรมครั้งแรกจริงๆ
เมื่อพวกอัครสาวกได้ประกาศข่าวประเสริฐและลงมาผ่านนักบุญอิเรเนียสและนักปฏิรูปผู้ยิ่งใหญ่หลายคุณและผู้ก่อตั้งทั้งหลายย้อนกลับไปในยุคเริ่มแรก มันมาถึงไนเซียครั้งหนึ่งเพื่อการแสดง และพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะสร้างคริสตจักรสากล ที่จะบังคับพวกผู้คนให้มาอยู่ภายใต้เขตอำนาจของตน หลายคุณที่ได้อ่านประวัติศาสตร์ที่นั่น รู้จักผู้เผยวจนะเดิมหลายคุณมาที่นั่นด้วยหนังสัตว์ที่ปกคลุมตัวของพวกเขารับประทานแต่พืชผักสมุนไพรเท่านั้น และพวกเขาพยายามที่จะยึดถือพระวจนะของพระเจ้า แต่พวกเขาได้กระทำอะไรเล่าครับ? สิบห้าวันนั้นของการเมืองอันนองเลือด ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะสร้างคริสตจักรสากลและลัทธิการไถ่บาปกับคริสต์ศาสนาและตั้งมันให้เป็นคริสตจักรสากล
และในวันนี้พวกโปรเตสแตนต์มีการขว้างปากันในสภาสังคายนาสากล กระทำในสิ่งเดียวกัน – การรับสินบนในขนบธรรมเนียมประเพณีของมนุษย์แทนพระวจนะของพระเจ้าซึ่งได้รับการพิสูจน์มาตลอดโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่า พระองค์ทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้, วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์ คริสตจักรยืนอยู่ในความสมดุลในวันนี้และถูกพบว่าเป็นที่ต้องการ พวกคุณกลับมาในห้องโถงตัดสินของปิลาต ใช่ครับท่าน!
มันทำอะไรเล่าครับ? มันกำลังสร้างภาพสัตว์ร้ายนั้น มันเป็นบริวารไปสู่กรุงโรมเมื่อสภาสังคายนาสากลจะบังคับและจะบังคับให้ คณะนิกายโปรเตสแตนต์ทุกคณะเป็นพวกมัน พวกเขากำลังปฏิบัติการทั้งหมดที่นั่นในขณะนี้ พระกิตติคุณสมบูรณ์และทั้งหมด เวลานั้นกำลังจะมาถึงเมื่อพวกเขาจะต้องมาหรืออยู่ และในเวลานั้นเมื่อการบังคับนั้นมาถึง พวกคุณได้ถูกระบุตัวตนไว้เรียบร้อยแล้วว่าตัวคุณเองมีเครื่องหมายของสัตว์ร้ายนั้น นั่นแน่นอนครับ มันคืออะไร? เป็นหญิงโสเภณีโปรเตสแตนต์ กับมารดากรุงโรมเก่า หญิงโสเภณี พระธรรมวิวรณ์ บทที่ 17 กล่าวว่า นางเป็นมารดาของหญิงโสเภณี (ตรงกับ - นิกายโปรเตสแตนต์) กำลังถือถ้วยพระพิโรธของพระเจ้าอยู่ในมือของนางสำหรับดื่มอวยพรของนาง - คำพยานของนาง - "นี่คือสิ่งที่พวกเราเชื่อ" และแต่ละคน "นี่คือสิ่งที่พวกเราเชื่อ"
นี่คือสิ่งที่คริสตจักรจะเชื่อ: พระวจนะของพระเจ้า! และถึงแม้มนุษย์ทุกคนจะโกหก นั่นคือสิ่งที่มันควรจะเป็น แต่พวกเรานำพระคริสต์มาอีกครั้ง เพื่อที่ ณ เวลาสำคัญอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงยืนอยู่ในห้องโถงตัดสินของปิลาตนั้น ทรงน่าเวทนา ฝูงชนเล็กๆ ได้ผลักดันออกอีกด้านหนึ่งด้วยศีรษะที่โค้งคำนับ คณะนิกายอื่นๆ ได้ปฏิเสธและปฏิเสธพระองค์และเบือนหน้าหนีไปจากพระองค์และกล่าวว่า "ไม่มีอะไรที่จะทำกับเขา" พวกคุณควรจะตรวจสอบพระวจนะ!
ตอนนี้พวกเราพบว่า สภาสังคายนาสากลนี้คือ ... มันกำลังทำอะไรอยู่ครับ? มันเป็น ... พระคัมภีร์ไบเบิล ... พวกคุณกล่าวว่า "พระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงว่าพวกเขาเป็น ... ?" ยึดถือทางพระเจ้าแต่เพียงเปลือกนอก แต่ปฏิเสธฤทธิ์เดช! ตาบอด เปลือยกาย คริสตจักรที่ยึดถือทางพระเจ้าแต่เพียงเปลือกนอก แต่ปฏิเสธฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งทรงพิสูจน์พระเยซูคริสต์ด้วยพระวจนะของพระองค์ มนุษย์จะอ้างว่ามีพระวิญญาณบริสุทธิ์และปฏิเสธพระวจนะอันเที่ยงแท้ซึ่งเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้อย่างไร?
มนุษย์สามารถทำสิ่งนั้นได้อย่างไรเล่าครับ? คำพยานของพระองค์เองเป็นพยานว่าเขาไม่ได้ในสิ่งที่เขาควรจะเป็น: การกระทำผิดประเวณีฝ่ายวิญญาณ ปฏิเสธฤทธิ์เดชของทางนั้น อ. เปาโลกล่าวไว้ในพระธรรม 2 ทิโมธี บทที่ 3 ว่านั่นคือสิ่งที่มันจะเป็น กล่าวว่าเขาจะมุทะลุ, โอหัง
"ผมมีการศึกษาระดับปริญญาเอก เป็น ดร."
สำหรับผมนั่นไกลเกินกว่าพระเจ้าที่พวกคุณเป็นเมื่อพวกคุณได้เริ่มต้น ใช่ครับท่าน สิ่งนั้นจะพาพวกคุณออกไปจากพระเจ้าเท่านั้น ไม่ได้นำคุณมาถึงพระเจ้า สิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถนำคุณเข้ามาใกล้พระเจ้าได้ และสิ่งนั้นคือ พระวิญญาณบริสุทธิ์โดยพระวจนะของพระองค์
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นเข็มทิศ, ดาวเหนือเป็นพระวจนะ และเข็มทิศเท่านั้นที่จะชี้ไปที่ดาวเหนือ และพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะทรงชี้ให้พวกคุณไปยังพระวจนะได้ – ไม่ได้เป็นขบวนการสร้างเอกภาพ ไม่ใช่บางคณะนิกาย แต่เป็นพระวจนะของพระเจ้า พวกคุณจำได้ครับว่าดวงดาวทั้งหมดอื่นๆ เคลื่อนไปกับโลก แต่ดาวเหนืออยู่กับที่เพราะมันอยู่ในศูนย์กลาง มันจะไม่เคลื่อนไปกับโลก ไม่ว่าโลกจะอยู่ที่ไหน พระองค์ยังคงทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้, วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์ และพระองค์ทรงเป็นพระวจนะ
พี่น้องชายและพี่น้องหญิง ผมขอร้องพวกคุณในพระนามของพระเยซูที่จะพิจารณาเรื่องนี้ พวกคุณเชื่อผมในสิ่งที่ผมเคยเทศนาในหลายปีเหล่านี้ ถ้าหากพระเจ้าได้ทรงพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ผมได้เทศนาเป็นความจริง (ไม่ใช่ผม เป็นพระวจนะของพระองค์ที่กระทำครับ) แล้วผมขอร้องพวกคุณในพระนามของพระเยซูที่จะตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าเป็นคนตาบอดกับสิ่งเหล่านี้ มันอยู่เหนือคุณ และจำครับว่า พระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวในพระธรรมมัทธิว บทที่ 24 ข้อ 24 ว่า รายชื่อทั้งหมดที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดกจากรากฐานของแผ่นดินโลกจะใช้เครื่องหมายนี้ เพียงแค่พวกผู้ที่ได้รับการเลือกสรรเท่านั้น ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งว่าจะเห็นมัน จะเห็นมัน ส่วนที่เหลือของพวกเขาจะพลาดมันเป็นล้านไมล์
พวกเราเห็นการเคลื่อนไหวใหญ่ของพวกมันตั้งขึ้นในขณะนี้ ชุดเครื่องจักรขนาดใหญ่ของซาตานตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบ สิ่งเดียวเท่านั้นที่มันต้องการคือ ... มันมีกลศาสตร์; เพียงกำลังรอคอยการเปลี่ยนแปลงที่จะนำมาบังคับมันเท่านั้น การเคลื่อนไหวต่างๆ, การประชุมต่างๆ, สภาขนาดใหญ่และสิ่งต่างๆ, เครื่องจักรขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่นั่น แต่พวกเขากำลังรอคอยชั่วโมงนั้นอยู่ เมื่อพวกผู้นำลงไป และพวกเขาก็สามารถทำให้มันและบังคับให้มัน – สร้างมันเป็นกฎหมาย มองดูสื่อต่างๆ ที่เผยแพร่ออกอากาศและสิ่งที่พวกเราได้ยินในวันนี้ผ่านทางวิทยุและหนังสือพิมพ์นี้ – เหตุฉะนั้นมันจึงใช่สำหรับพวกคุณตอนนี้ คุณยังไม่มีเวลาที่จะทำอะไรอย่างอื่น แต่ได้รับพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงได้รับการระบุพระองค์เองมาโดยตลอด
ฟังครับ พวกเราพูดเกี่ยวกับเครื่องจักรขนาดใหญ่ของซาตานที่นั่นที่พร้อมจะขับเคลื่อน นั่นแหล่ะครับ ที่จะบดขยี้ลง แต่จำครับว่า ฝูงชนเล็กๆ ของพระเจ้าที่เชื่อพระวจนะ กลศาสตร์ของมันก็พร้อมแล้วด้วย มันพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะตั้งลุกเป็นไฟด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ "ฝูงแกะเล็กน้อยเอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระบิดาของพวกคุณชอบพระทัยจะประทานแผ่นดินนั้นให้แก่คุณ"
พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงปะทะคริสตจักรเล็กๆ ที่ออกมาจากโลก – พวกผู้หญิงที่ไว้ผมยาว นาศีร์ที่พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาแยกตัวเองจาก ... นาศีร์เป็นพวกหนึ่งในพวกใดเล่าครับ? พวกหนึ่งที่แยกตัวเองสำหรับพระวจนะของพระเจ้า ไม่สวมกางเกงขาสั้น เยเซเบลที่แต่งหน้าเรียกตัวเองว่าคริสเตียน! ไม่ครับคุณ พวกที่อ่อนแอจะยืนหยัดเพื่อยึดมั่นในคณะนิกายบนชายเสื้อโค้ตของพวกเขาของซีซาร์หรือเฮโรดแทนการยืนหยัดเพื่อพระวจนะของพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงมีประชากรที่สัตย์ซื่อ, ฝูงชนแท้จริงของพระเจ้าที่ไม่สนใจสิ่งที่โลกพูด พวกเขาเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้ วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์
สิ่งนี้ไม่เป็นที่นิยม มันจะทำให้คุณไม่เป็นที่นิยม แต่มันเป็นความจริง มันเป็นพระบัญชาของพระเจ้าสำหรับมันที่จะถูกกระทำ และพระเจ้าจะทรงกระทำมัน ขอพระเจ้าอวยพรพวกคุณครับ ไม่ได้ตั้งใจตะคอกพวกคุณ แต่จะเตือนพวกคุณ ดีกว่าที่จะถูกเผาไหม้เกรียมในเวลาใดก็ได้ ดังนั้นจงฟังคำเตือน! พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสในยุคสุดท้ายเหล่านี้ ทั้งหมดที่ถูกเขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้จะถอยหนีมัน
ตอนนี้พวกเราพบว่า ฝูงชนเล็กๆ จะพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเคลื่อนเขาขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่จะหลบหนีกลียุคทั้งหมดนี้ บางคนได้กล่าวไว้ในวันก่อนเมื่อผมกำลังสนทนาว่า "บราเดอร์บรานฮาม คุณไม่เชื่อ ดังนั้นคริสตจักรจะเข้าสู่กลียุคหรือไม่?"
ผมตอบว่า "ผมเชื่อว่าคริสตจักรจะ แต่เจ้าสาวจะไม่"
คริสตจักรจะเข้าสู่กลียุค ใช่ครับท่าน แต่เจ้าสาวเป็นอิสระจากมัน นางจะไปในการรับขึ้นไป ในช่วงเวลาหนึ่งเพียงแค่การกระพริบตานางจะถูกรับขึ้นไปเพื่อจะพบพระเจ้าของนางในอากาศสำหรับงานอภิเษกสมรส นางไม่มีอะไรที่จะเข้าสู่กลียุคใดๆ พระเจ้าของนางได้ทรงจ่ายราคาของนาง พวกเราจึงรู้สึกขอบคุณสำหรับการนั้น ใช่ครับท่าน
หลังจากการปฏิเสธของทั้งคริสตจักรและประเทศชาติ มีเพียงเสียงหนึ่งร้องออกมา การเคลื่อนไหวถัดไปคือการกำจัดพระองค์ นั่นคือเสียงร้องถัดไปที่พวกเรามี คริสตจักรได้ปฏิเสธพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างหนักแน่น พวกเราทราบครับ โอ้ พวกสมาชิกได้ออกมาทุกอย่าง นั่นคือการทรงเรียกที่ยิ่งใหญ่ เพรสไบทีเรียน, เมธอดิสท์, แบ๊บติสต์, ลูเทอแรน – แต่คริสตจักรของตนเอง คณะนิกาย มันไม่สามารถเคลื่อนได้ ไม่ครับคุณ มันเป็นคณะนิกายเรียบร้อยแล้ว มันคือสิ่งใดของเขาตอนนี้หรือครับ? ตรึงเขา! ตรึงอะไรเขา? ตรึงใหม่ อะไรครับ? พระวจนะที่ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นความจริง พระวจนะของพระเจ้าได้ถูกตรึงใหม่อีกครั้ง เช่นเดียวกับเอวาที่ได้เขวไปในโลกทางกายภาพทั้งหมดโดยการปฏิเสธพระวจนะของพระเจ้าเพียงเล็กน้อย ดังนั้นคริสตจักรได้กระทำสิ่งเดียวกัน
พวกคุณอาจจะพูดกับผมว่า "บราเดอร์บรานฮาม คุณมีการตีความมันผิด"
ดีล่ะครับ นั่นเป็นความคิดเห็นของพวกคุณ พระเจ้าไม่ทรงปรารถนานักตีความใดๆ พระเจ้าทรงเป็นนักตีความของพระองค์เอง นั่นคือสิ่งที่เป็นปัญหาของมันคือยุคนี้ พวกเรามีนักตีความที่มนุษย์สร้างขึ้นมากเกินไป พระเจ้าทรงสามารถตีความเองได้ การพิสูจน์ของพระองค์เองของพระวจนะของพระองค์คือ การตีความ
พวกฟาริสีอาจจะร้องออกมาด้วยว่า “พวกเรามีการตีความ"
พวกสดุสีกล่าวว่า “พวกเรามีมัน"
แต่พระเยซูทรงเป็นการตีความ อาเมน
การสำแดงของพระเจ้าทรงเปิดเผยฤทธิอำนาจ, พระสัญญาเป็นการพิสูจน์ให้เห็น จงอ่านข้อพระคัมภีร์และดูสิ่งที่คริสตจักรสมควรที่จะเป็นในยุคนี้ ใช่ครับท่าน พระเจ้าไม่ทรงปรารถนานักตีความใดๆ
นั่นคือสิ่งที่พวกเขาได้กระทำกับพระเยซู พวกเขาได้พบกลับไปที่นั่นที่พวกเขาคิดว่า พระองค์ไม่ได้ทรงมีการตีความ พระองค์ทรงเป็นการตีความ! พระเจ้าไม่ได้ตีความมัน ชีวิตของพระเยซูได้ตีความมัน
พระองค์ตรัสว่า "ค้นดูพระคัมภีร์ เพราะคุณคิดว่าในนั้นมีชีวิตนิรันดร์ และพระคัมภีร์นั้นเองเป็นพยานให้กับเรา ถ้าเราไม่ได้ปฏิบัติพระราชกิจของพระบิดาของเราก็อย่าวางใจเราเลย แต่ถ้าพระราชกิจที่ได้กล่าวไว้ในวันนี้ไม่ประจักษ์ในเรา" พระองค์ตรัสว่า "ก็อย่าวางใจเราเลย" พวกเขาทำหรือไม่ครับ?
พระเจ้าตรัสว่า "หญิงพรมจารีจะตั้งครรภ์" และนางก็ตั้งครรภ์ พวกคุณเชื่อหรือไม่ครับ? แน่นอนครับ แต่พวกเขาไม่เชื่อ “หญิงพรมจารีจะตั้งครรภ์" และนางก็ได้กล่าวว่า “คนง่อยจะเดินได้คนตาบอดจะมองเห็น" และสิ่งใดจะเกิดขึ้น มันพิสูจน์แล้วว่าพวกเขาจะทำมัน และพระเยซูได้ทรงสำแดง
โมเสสกล่าวว่า "พระเจ้าของคุณทั้งหลายจะประทานผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง เหมือนอย่างเรา" พระวจนะมาถึงผู้เผยพระวจนะ และผู้เผยพระวจนะ... พระวจนะเป็นเครื่องวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจ ทรงเป็นเครื่องตรวจสอบความคิดของจิตใจ เมื่อพวกเขาเห็นพระองค์ทรงขับผีได้ พวกเขากล่าวว่า "นี่คือเบเอลเซบูล นายผี" นั่นไม่เป็นอะไรมากไปกว่านามที่พวกเขาตรึงพระองค์ เหมือนกันกับในยุคนี้และเรียกมันว่าลูกกลิ้งศักดิ์สิทธิ์หรือบางสิ่งบางอย่างเหมือนอย่างนั้น นั่นแหล่ะครับ
ไม่ครับ พระองค์ไม่จำเป็นต้องมีการตีความ พระองค์ทรงเป็นการตีความ พระเจ้าได้ทรงพิสูจน์มันโดยพระองค์เอง ใครคือคนบาปวันนี้ หรือผู้ที่เป็นคนบาปนั้น ที่จะปฏิเสธว่าพระวจนะไม่ได้ถูกตีความ พระเยซูตรัสตอบว่า "ค้นดูในข้อพระคัมภีร์ พวกมันเป็นพยานให้กับเรา พวกมันเป็นการตีความ ถ้าชีวิตของเราไม่หมายถึงสิ่งที่เรากำลังพูดถึง ดังนั้นอย่าเชื่อเรา"
สิ่งที่พวกคนบาปอาจมีวันนี้ที่อาจจะดูในหน้าของพระคัมภีร์ไบเบิลได้และเห็นว่า ถ้าหากพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ทรงเป็นนักตีความในยุคนี้ของพระวจนะที่ทรงทำให้พระองค์เองเป็นที่รู้จักกันโดยการสำแดงของพระสัญญาของของประทานและสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ทรงสัญญาว่าจะกระทำในยุคนี้ พระธรรมมาลาคี บทที่ 4 กำลังจะสำเร็จ ส่วนที่เหลือทั้งหมดของข้อพระคัมภีร์ที่จะสำเร็จและดูมันที่นี่ในตอนสิ้นยุค พวกคุณไม่จำเป็นต้องมีใครตีความมัน ไม่ครับคุณ! มันตีความด้วยตนเอง มันพิสูจน์ว่า มันเป็นคำเทศนาของ ณ เวลานี้ จงกลับใจและหันกลับไปหาพระเจ้า ทั่วโลก! พวกคุณคริสตจักรทั้งหลายจงกลับใจและหันกลับไปหาพระเจ้า! จงอย่าพยายามที่จะล้างพระองค์ออกจากมือของพวกคุณเพราะพวกคุณไม่สามารถทำมันได้ ปัญหาของมัน ณ ตอนนี้เหมือนดั่งที่มันเคยเป็นจากนั้น กล่าวว่า "ค้นดูพระคัมภีร์ไบเบิล พวกเขาเป็นพยานของเรา" พระเยซูตรัสว่า "การงานของเราเป็นการตีความของเรา"
พระองค์ตรัสกับโมเสสเมื่อพระองค์ทรงพบกับเขาที่นั่นที่พุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ พระองค์ตรัสว่า "เราเป็น เราจำสัญญาของเราได้ เราจำได้ว่า เราจะพาพวกเขาประชาชนออกมาโดยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ เราได้สัญญาและเราจะไปกับคุณ เรากำลังส่งคุณไป คุณเป็นเพียงปากของเราและหมายสำคัญต่างๆ จะตีความว่าเราได้ส่งคุณไปหรือไม่" อาเมน
นั่นคือสิ่งที่พวกบุรุษและพวกสตรีควรที่จะมองหาวันนี้: พระสัญญาของการอพยพอื่นๆ และการตีความของพระวจนะของพระเจ้าที่กำลังสำแดงอยู่
ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งนั้นในยุคนี้ พวกเขากล่าวว่า "ดีล่ะ คริสตจักรของผมไม่เชื่อเรื่องนี้"
เรื่องอะไรเล่าครับ? พวกคุณกำลังอาศัยอยู่ในเงาของยุคอื่น พวกเขาคริสตจักรทั้งหลายก็ดีแล้วในยุคของพวกเขา แต่สิ่งที่เกี่ยวกับยุคนี้เล่าครับ? นี่คือยุคอื่น พวกคุณไม่เคยทำให้เวสลีย์เชื่อในลูเทอร์ว่า มันไม่ใช่การชำระให้บริสุทธิ์ ไม่ครับคุณ! พวกคุณจะไม่ทำให้เพนเทคอสต์เชื่อในแบ๊บติสต์หรือต้องการที่จะกลับไปที่นั่น พวกเขาได้พบสิ่งที่ดีกว่า พวกเขาอาศัยอยู่ในแสงสว่างของวันของพวกเขาและวันนี้พวกเพนเทคอสต์ได้จัดตั้งและนั่งลงเหมือนที่พวกเขาได้ทำ เหมือนสิ่งเดียวกันอย่างแน่นอนครับ
และพระวจนะกำลังเคลื่อนต่อไปและกำลังเคลื่อนหนีไปจากพวกเขา นั่นแน่นอนครับ เพราะว่าพวกเราแข็งกระด้าง พวกเราปล่อยให้คริสตจักรของพวกเรารับสภาพในทุกรูปแบบต่อไป ตราบใดที่พวกเรามีพวกสมาชิกนั่นเป็นความจำเป็นทั้งหมด ทำให้พวกเราได้มากขึ้นกว่าที่พวกเราเคยมี พวกเรากระพือเกี่ยวกับสิ่งนั้น ให้ผมบอกพวกคุณบางสิ่งบางอย่างในสุภาษิตเก่า: มารร้ายนับฝูงชนของมัน แต่พระเจ้าทรงชั่งน้ำหนักของพระองค์ นั่นยังคงเป็นจริงในวันนี้ครับ พระเจ้าทรงช่างน้ำหนักพวกคุณด้วยพระวจนะของพระองค์ ดูเถิดครับ ถ้าหากพวกคุณถูกพบว่าต้องการหรือไม่
ผมไม่สนใจเกี่ยวกับฝูงชนว่ามีเท่าไหร่ ไม่เป็นที่นิยมเพียงใด มันเป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ได้รับการสำแดง ณ เวลานี้อย่างแน่นอนครับ ไม่สนใจเกี่ยวกับฝูงชนและผู้ที่มาและผู้ที่ไม่มา มันเป็นเรื่องของพระวจนะของพระเจ้าที่เป็นเดิมพันเหมือนมันอยู่ที่นั่นในห้องโถงตัดสินของปิลาต ชั่งน้ำหนักมันและดูสิ่งที่พวกเราได้พบที่พวกเรากำลังอยากพบ ใช่ครับท่าน พวกเราเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้, วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์
พวกเราพบว่า พระองค์ตรัสกับโมเสสว่า "เราจะอยู่กับคุณและเราจะใช้ปากของคุณ คุณจงไปพูดถ้อยคำที่เราบอกคุณและหมายสำคัญต่างๆ จะตีความตัวมันเอง" ดูเถิดครับ พระเจ้าไม่ทรงปรารถนานักตีความใดๆ โอ้ ไม่ครับ พระองค์จะต้องไม่ทรงถูกตีความ พระเจ้าทรงตีความพิสูจน์พระองค์เอง พระองค์ทรงบอกว่าพระองค์ทรงเป็นนักตีความพระวจนะของพระองค์เองและพระองค์ทรงเป็น พระองค์ทรงกระทำมันโดยโมเสสและพระองค์ทรงกระทำมันในยุคนี้ครับ
พวกเรารู้จักพระองค์ในพระคัมภีร์ไบเบิลว่าเป็นเอโลฮิม เอโลฮิม คือพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ พระองค์ไม่ทรงปรารถนาคำแนะนำของใคร พระองค์ทรงยืนอยู่เพียงลำพัง พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและพระองค์ทรงเป็นพระวจนะ และเมื่อพระวจนะได้สัญญาบางสิ่งบางอย่างและได้รับการพิสูจน์ต่อหน้าพวกคุณ พวกคุณต้องการการตีความในรูปแบบใดนอกจากแบบนั้นหรือครับ?
โอ้ ชายหญิงคนบาปเอ๋ย พวกคุณเป็นผู้ใดที่จะลุกขึ้นและบอกว่ามันผิดได้ เมื่อพระเจ้าทรงมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์และพระวจนะแห่งพระสัญญาตีความมันต่อหน้าของทุกคนของพวกเรา พวกเราเป็นใครที่จะบอกว่ามันผิดเล่าครับ? โอ้ คนบาปเอ๋ย คุณทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
"บาป? พวกคุณหมายถึงอะไรกับคำนั้น บราเดอร์บรานฮาม?"
ความไม่เชื่อ
มีบาปเพียงอย่างเดียว นั่นคือ ความไม่เชื่อ ไม่ทรงปรารถนาการตีความโง่ๆ ของมนุษย์; พระองค์ทรงตีความของพระองค์เอง "เราเป็นพระเจ้า" พระองค์ตรัสว่า "เราเป็นผู้ดูแลสวนนั้น เรารดน้ำทุกเวลา เกรงว่าผู้หนึ่งผู้ใดจะทำอันตรายสวนนั้น"
นอกจากนี้พระองค์ยังตรัสในข้อพระคัมภีร์อื่นๆ ว่าพระองค์ทรงดูแลพระวจนะของพระองค์ที่จะกระทำมัน – กระทำมัน เปิดเผยมัน เพื่ออะไรเล่าครับ? ผู้ที่ได้รับการเลือกสรรของพระองค์ เพื่อพวกเหล่านั้น (เขาถูกส่งไปที่จะเห็นมัน) ที่ถูกส่งไปที่จะเห็นมันมากกว่า พระองค์ทรงกระทำมันเพื่อพวกเหล่านั้นที่ถูกส่งไปที่จะเห็นมัน พระองค์ทรงดูแลมัน เก็บรักษามันจากการตีความทางเนื้อหนังอย่างโง่ๆ เหล่านี้ทั้งหมด "นี่ถูกต้อง" และ "นั่นถูกต้อง" และ "นั่นถูกต้อง" พระเจ้าทรงถูกต้อง! พระเจ้าได้ทรงระบุพระองค์เองว่าเป็นบุคคล!
ตอนนี้พวกเขาพวกฟาริสีอาจจะลุกขึ้นนั่งที่นั่นและกล่าวว่า "พวกเรามีพระเจ้า พวกเรามีพระบัญญัติ พวกเรามีสิ่งนี้ ... " และพระวจนะได้ยืนอยู่ด้วยพระองค์เอง กล่าวว่า "นำเขาไป ตรึงเขา! เขาไม่ได้พิสูจน์ตัวของเขาเองกับสิ่งที่พวกเราเชื่อ" แต่เขาระบุตนเองด้วยคำพูด อาเมน คนเหล่านั้นที่มีตามองเห็นจะเห็น คนเหล่านั้นที่ตาบอดก็จะไม่เห็นมัน ทั้งพวกเขาจะไม่กระทำมันในวันนี้ นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขากำลังจะกระทำ ... ปิดผนึกตัวของพวกเขาเองออกมา หลายคนของพวกเขาหนีไปจากมัน โอ้ ใช่ครับ
โดยการกระทำให้มันสำเร็จ, การแสดงให้เห็นว่ามันจะเป็นจริง ... บางคนบอกว่า "ผมเชื่ออย่างมาก บราเดอร์บรานฮาม ผมเชื่อพระคัมภีร์ไบเบิล ผมเห็นด้วยกับพระคัมภีร์ไบเบิล ผมเป็นผู้ที่เห็นด้วยกับพระคัมภีร์ไบเบิล ผมเชื่ออย่างนั้นและอย่างนี้ ผมเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า แต่ผมไม่อยากจะเชื่อทั้งหมดเพราะคณะนิกายของผมบอกว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น"
ดังนั้นคุณเป็นนักตีความแบบไหนกันเล่าครับ? แบบเดียวกับที่เอวาเป็น - มารร้าย มันพยายามที่จะตีความพระวจนะให้กับเอวา และมันกล่าวว่า "โอ้ สิ่งนี้ถูกต้องและสิ่งนั้นถูกต้อง แต่แน่นอน ... " แน่นอนว่าถูกต้อง! สิ่งที่พระเจ้าตรัส สิ่งนั้นถูกต้อง ผมไม่สนใจว่ามันดูเหมือนเท่าใดสำหรับคนอื่นๆ เมื่อพระเจ้าตรัสว่ามันจะเกิดขึ้น มันก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น
พวกคุณจะใช้นักตีความของเอวาหรือ? โอ้ คนบาปเอ๋ย คุณจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร? ใช่ครับท่าน! พวกเขามีนักตีความของเอวา เครื่องพิสูจน์ ... ดั่งที่ผมเทศนาในวันก่อน พวกเราพยายามที่จะกำหนดเครื่องพิสูจน์ ลูเทอร์กล่าวว่า "จงเชื่อและเดินออกไป" มารร้ายก็เชื่อด้วย
เวสลีย์กล่าวว่า "จงร้องเสียงดังและพวกคุณจะได้รับ" แต่เขาพบว่าเขาไม่ได้รับ
เพนเทคอสต์กล่าวว่า "จงพูดภาษาแปลกๆ และพวกคุณจะได้รับ" พวกเขาไม่ได้รับ
คริสเตียนวิทยาศาสตร์กล่าวว่า “จงรัก พวกคุณต้องมีผลของพระวิญญาณ" แต่พวกเขาไม่ได้รับ พวกเขาได้ปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์
เครื่องพิสูจน์คืออะไร? เมื่อพระวิญญาณที่ทรงอยู่ในพวกคุณสามารถเว้นวรรคทุกพระสัญญาด้วย "อาเมน" และพระเจ้าจะทรงยืนยัน นั่นเป็นวิธีที่ได้เป็นกับพระเยซูคริสต์อย่างแน่นอน โอ้ ใช่ครับ พวกเขามี ... พวกเขามีผลของพระวิญญาณมาก พวกเขามีเครื่องพิสูจน์ทุกชนิด พวกคุณไม่อาจจะปักหมุดหลักฐานใดๆ ลงไปในอะไรได้ แต่พระเจ้าพระองค์เองทรงเผยพระวจนะของพระองค์ นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์อันแท้จริงว่ามีสิ่งที่คุณเป็นคริสเตียน คุณจะเป็นคริสเตียนได้อย่างไรเมื่อ ...
ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า และพระวาทะทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเรา ทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้, วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวกับที่ทรงอยู่ในดาวิด พระองค์ทรงเป็นองค์เดียวกับที่อยู่ในโมเสส พระองค์ทรงเป็นองค์เดียวกับที่อยู่ในอัครสาวกทั้งหมด และพระองค์ก็ทรงเป็นองค์เดียวกับที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ที่ทรงสำแดงพระองค์เองที่นั่นสำหรับพระวจนะแห่งสัญญานั้น และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวกับในยุคนี้ พระวจนะเดียวกันที่กำลังส่องแสงสว่างบนพระวจนะ ณ เวลานี้ พระเจ้าทรงเมตตากับพวกเรา ใช่ครับท่าน เชื่อว่าพระเจ้าจะทรงตีความด้วยพระองค์เอง ทุกถ้อยคำที่จะพิสูจน์ให้เห็น ใช่ครับ พระองค์ทรงเป็นนักตีความของพระองค์เอง
พี่น้องครับ ผมคิดถึงชั่วโมงนี้ ผมอาจจะอยู่บนนี้เป็นเวลานานได้ แต่พวกคุณกำลังจะมีการประชุม ผมเชื่อและผมจะบอกวันนี้ว่า ถ้าหากพวกเราไม่เฝ้าดู พระองค์ทรงอยู่บนมือของพวกเราชาวอเมริกัน คิดดูเถิดครับ! ผมพูดเรื่องนี้ไม่ใช่ด้วยความโกรธ; ผมพูดเรื่องนี้เพื่อแสงสว่าง ผมบอกว่า พระโลหิตของพระเยซูคริสต์อยู่ในมือของคริสตจักรอเมริกันในยุคนี้ พระโลหิตของพระเยซูคริสต์อยู่ในอเมริกาทั้งหมด พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ต่อต้านพวกเมธอดิสท์, เพรสไบทีเรียน และเพนเทคอสต์ สิ่งนั้นอยู่ในมือของพวกเราทุกคน ลองมาดูครับว่าถ้าหากสิ่งนั้นอยู่ในขณะนี้ คิดดูเถิดครับ พระโลหิตของพระเยซูคริสต์! โอ้!
และปีลาตวันนั้น...มันทำให้ผมนึกถึงสามวิธีที่ปีลาตได้พยายามที่จะกำจัดมันออกจากมือของเขา เขาได้พยายามทั้งสามวิธีที่จะกำจัดมันออกจากมือของเขา แต่เขาล้มเหลว มีทางเดียวเท่านั้นพวกคุณจะกำจัดมันออกจากมือของพวกคุณได้ ลองมาดูสิ่งที่เขาทำครับ ปีลาตได้พยายามสามวิธีนี้และพวกมันทั้งหมดล้มเหลว
พวกเราจะต้องเผชิญกับปัญหา พวกเรารู้ว่ามันอยู่ที่นี่ สำหรับคำพูดของเขาได้รับการยืนยันจากเครื่องพิสูจน์ในข้อพระคัมภีร์ พระวจนะได้สัญญาไว้สำหรับวันที่จะทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ แม้แต่ส่วนของมารร้ายที่ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ และพระองค์ในยุคเลาดีเซียนี้ที่ด้านนอกของคริสตจักร พวกเรารู้ว่าเป็นความจริง คิดดูเถิดครับ – พระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้าบนมือของพวกเรา พวกคุณ ... นั่นทำให้ผมกลัวที่จะคิดถึงมัน มันส่งความหนาวสั่นที่จะคิดผ่านพวกคุณ ... พระโลหิตของพระเยซูคริสต์
เมื่อคนๆ หนึ่งจะเฝ้าดูโลหิตเพื่อนมนุษย์ของเขาเอง ... มีอยู่ครั้งหนึ่งในเมืองชิคาโก เมื่อไม่นานที่ผ่านมาเพื่อนของผมกำลังยืนอยู่ที่นั่นเมื่อผู้หนึ่งในเครื่องแต่งกายจอมโจรดิลลิงเจอร์หรืออะไรก็แต่ที่มันเป็น ถูกยิงลงบนถนน พวกผู้คนก็มาชุมนุมกันขึ้นหลายร้อยคนและพวกเขายืนอยู่รอบๆ แต่พวกเขา ... พวกเขาทำอะไรเล่าครับ? สถานที่ที่โลหิตแพร่กระจายออกไปบนถนนจากรูกระสุนที่ทุกคนเดินไปรอบๆ โลหิตนั้น พวกเขาจะไม่เหยียบไปในโลหิตเพื่อนมนุษย์ของพวกเขา โอ้ ไม่ครับคุณ พวกเขาหวาดระแวงสิ่งนั้นมาก แต่พวกเขาจะเดินตรงไป ณ พระโลหิตของพระเยซูคริสต์!
คำพูดเดิมๆ นี้ยังคงเป็นจริง "คนโง่เขลาจะเดินไปกับรองเท้าที่ตอกตะปู ในขณะที่เหล่าทูตสวรรค์เกรงที่จะเหยียบย่ำ" ใช่ครับ พวกเขาจะเดินไปที่มันและพูดว่า "ยุคแห่งการอัศจรรย์ได้ผ่านไปแล้ว นั่นใช่สำหรับพวกอัครสาวก แต่ไม่ใช่สำหรับพวกเรา" โอ้! พวกคุณพูดอย่างนั้นได้อย่างไรเล่าครับ? พวกคุณกำลังเหยียบย่ำพระโลหิตของพระเยซูคริสต์อยู่ใต้ฝ่าเท้าซึ่งพวกคุณได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว โอ้! คิดถึงโลหิตบนมือของพวกเรา! โลหิตของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ...
ผมคิดว่าเกี่ยวกับ...นานมาแล้วสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อพวกเราคิดว่ามันไม่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศของพวกเราได้ สิ่งที่เกี่ยวกับชายคนนี้ ออสวอลด์, นั่งอยู่ที่นั่นในห้องขัง เหงื่อตก ถ้าหากเขาอยู่ในสภาวะจิตใจที่เป็นปกติของเขา และผมคิดถึงคนๆ หนึ่งที่อาจจะฟังเทปนี้หรือนั่งอยู่ในเวลานี้ที่นี่, ทุกหนแห่งและฟังคำเทศนาแห่งการพิสูจน์; กำลังเหงื่อตก รู้ว่าคุณจะมาที่การพิพากษาและตอบพระวจนะของพระเจ้า ตอบพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ซึ่งคุณได้รับการบอกกล่าวแล้ว – ในมือของคุณ, ในมือของพวกเรา
สังเกตไหมครับว่า ออสวอลด์กำลังนั่งอยู่ที่นั่น ช่างเป็นสิ่งน่ากลัว มันน่าจะเคยเกิดขึ้นกับเขาหรือได้เกิดขึ้นแล้ว หรือผมเดาว่ามันเป็นอย่างนั้น เมื่อเขาคิดว่าเขาจะต้องเผชิญกับศาลฎีกาที่โกรธา ด้วยความโกรธของการฆาตกรรมประธานาธิบดีของพวกเขา จะไม่มีความเมตตา หลักฐานใดๆ ที่พวกเขาได้รับเพื่อต่อต้านเขาก็จะต่อต้านเขาอย่างหนาตา ลายนิ้วมือ, ปืน, สถานที่ที่เขาอยู่ ทั้งหมดจะถูกนำมาต่อหน้าเขา
นั่นเป็นสิ่งที่ไม่รุนแรงกับสิ่งที่กำลังจะเป็นสำหรับผู้คนที่นั่งอยู่ในการประชุมเหล่านี้ และเฝ้าดูการฟื้นขึ้นของพระเยซูคริสต์ในรูปแบบของพระกายพระองค์และทรงระบุพระองค์เอง และพวกคุณเดินออกไปโดยไม่ยอมรับพระองค์ นับถือลัทธิเล็กๆ บางลัทธิหรือสิ่งที่พวกคุณเรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นจะเป็นสิ่งที่ไม่รุนแรงเมื่อพวกคุณนั่งอยู่ในการทรงสถิตของพระเจ้าผู้ทรงพระพิโรธ ใครได้เหยียบย่ำ...พวกคุณได้เหยียบย่ำพระโลหิตของพระบุตรของพระองค์เองและได้ตรึงกางเขนพระองค์ใหม่ในจิตใจของพวกคุณสลับกับสิทธิอำนาจการบังเกิดของพวกคุณเพื่อความนิยม มันจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวในวันนั้น มันจะเป็นความคิดที่น่าสะพรึงกลัว! พวกคุณจะนั่งอยู่ในห้องขังเหงื่อตก!
พวกคุณชาวพื้นเมืองในแอฟริกา, พวกคุณในออสเตรเลีย, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์ พวกคุณที่ฟังเทปนี้ พวกคุณจะให้คำตอบในวันพิพากษาได้อย่างไรครับ เมื่อผมได้อยู่ในประเทศของพวกคุณและพวกคุณเคยเห็นการระบุพระองค์เองของพระเยซูคริสต์ที่ฟื้นขึ้นมาในท่ามกลางฝูงชนและทรงพิสูจน์พระองค์เอง? เหงื่อตก? โอ้ พวกคุณต้องเหงื่อตก
โอ้ พระองค์ทรงกระทำมันได้อย่างไรเล่าครับ ถ้าหากพระองค์ทรงอยู่ในสภาวะจิตใจที่เป็นปกติหรือครับ? คุณคิดว่าพระเจ้าผู้ทรงพระพิโรธจะเป็นแบบใดกับผู้ที่ได้เหยียบพระบุตรของพระเจ้าอยู่ใต้ฝ่าเท้าและได้ตรึงกางเขนพระองค์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง?
สังเกตไหมครับว่า นักบินเมื่อเขาพร้อมที่จะนำเครื่องบินขึ้น นักบินจะนำเครื่องบินออกมาเขาจะตรวจสอบทุกอย่างก่อนที่เขาจะออกไป – อุปกรณ์ทุกชิ้น เขาจะออกไปบนรันเวย์และยืนอยู่ข้างนอกที่นั่น และตรวจสอบปีก, บานพับ, ตรวจสอบฝาน้ำมันของเขา, ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้น – อุปกรณ์ทุกๆ ชิ้นที่เขามี เขาตรวจสอบมันซ้ำแล้วซ้ำอีก หลายคุณเคยบินในเครื่องบินและพวกคุณรู้ว่าเป็นความจริง เขาตรวจสอบอุปกรณ์ทุกอย่าง ทำไมเล่าครับ? เขามีโลหิตของเพื่อนมนุษย์ของเขาที่มือของเขา เขาต้องการที่จะให้แน่ใจว่าทุกอย่างที่เป็นไปได้คือการทำงานที่ถูกต้อง
แพทย์ในการผ่าตัดเป็นอย่างไรเล่าครับ? เมื่อเขารู้ว่าเขาจะผ่าตัดนำเนื้องอก, หรือหัวใจ, หรือสิ่งอื่นๆ และผ่าตัดมันได้หรือไม่? เมื่อเขากำลังจะผ่าตัดในร่างกายของคุณ เขาจะตรวจสอบหัวใจของคุณ เขาจะตรวจสอบความดันโลหิตของคุณ เขาจะตรวจสอบว่าคุณมีไข้ไหม เขาจะตรวจสอบยาชา เขาตรวจสอบทุกอย่างครั้งแล้วและครั้งเล่าและอีกครั้งหนึ่ง ทำไมครับ? เขาไม่ต้องการโลหิตของเพื่อนมนุษย์ของเขาอยู่บนมือของเขา
ถ้าหากแพทย์และนักบินและคนอื่นๆ จะต้องตรวจสอบ คริสตจักรของพระเยซูคริสต์น่าจะทำอย่างไรเล่าครับ? เมื่อพวกเราเห็นสิ่งที่พวกเรากำลังมีชีวิตอยู่ในวันนี้พวกเราน่าจะตรวจสอบ พระโลหิตของพระเยซูคริสต์อาจจะอยู่บนมือของพวกเราก็ได้ครับ
ตอนนี้ลองดูสิ่งหนึ่ง ประการแรกของปิลาตคือ "เราไม่พบความผิดอะไรในตัวเขาเลย"
นั่นอยู่ในหลายกลุ่มที่ดีในยุคนี้ได้อย่างไร “ผมไม่พบความผิดในพระวจนะ มันถูกต้องทั้งหมด แต่นั่นเป็นสำหรับพวกอัครสาวก"
พระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้, วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์"
พวกคุณพูดว่า "พระคัมภีร์ไบเบิลนั้นถูกต้องทั้งหมด ผมเชื่อว่าพวกเขาพูดภาษาแปลกๆ ผมเชื่อว่าพวกเขาขับผี ผมเชื่อว่าพวกเขาวินิจฉัยความคิดจิตใจได้ ผมเชื่อว่าพวกเขาเป็นผู้เผยพระวจนะ แต่ไม่ใช่ยุคนี้"
โอ้! คนบาป! เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? เกิดอะไรขึ้นเมื่อพระธรรมมัทธิว บทที่ 24 ข้อ 24 ที่วางอยู่นั่น และพระธรรมฮีบรู บทที่ 13 ข้อ 8 โบยบินกลับในตักของพวกคุณอีกครั้งหนึ่ง
ปีลาตเขาไม่สามารถล้างมันออกจากมือของเขาอย่างนั้นได้ ไม่ครับ มันกลับมาอยู่ในตักของเขาอีกครั้ง ดังนั้นมันจะมายังทุกคน เมื่อเขาได้ลุกขึ้นยืนและเห็นพระเจ้าทรงรักษาพระสัญญาของพระองค์
เปโตรกล่าวในวันเพนเทคอสต์ว่า “จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ให้หมดทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของคุณทั้งหลาย แล้วพวกคุณจะได้รับของประทานคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะว่าพระสัญญานั้นตกแก่คุณทั้งหลายกับลูกหลานของพวกคุณด้วย และแก่ทุกคนที่อยู่ไกล คือทุกคนที่พระเจ้าของเราทรงเรียก” ไกลเท่าไหร่ครับ? แก่ทั่วโลก แก่ทุกประเทศชาติ
กล่าวถึงทุกประเทศ “จงออกไปทั่วโลก (มันยังไม่ถึงที่นั่นครับ( ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน หมายสำคัญเหล่านี้จะติดตามพวกเขาผู้เชื่อ"
พวกคุณจะล้างสิ่งนั้นออกจากมือของพวกคุณได้อย่างไรครับ? พวกคุณไม่สามารถทำได้ มันได้-พิสูจน์ให้เห็นและถูกโยนกลับมาอยู่ในตักของพวกคุณ มันกลับตาลปัตรเช่นเดียวกับที่มันเป็นในปีลาต โอ้ ใช่ครับ! มันกลับมายังพวกคุณอีกครั้งเมื่อพวกคุณเห็นข้อพระคัมภีร์ที่พิสูจน์แล้วต่อหน้าพวกคุณ
ประการที่สองในขณะที่พวกเรากำลังจะปิด ประการที่สองพวกเราพบว่ามีวิธีอื่นที่ปีลาตพยายามที่จะทำอีก เหมือนกับพวกผู้คนในยุคนี้ - ผ่านมันไปยังเฮโรดและซีซาร์ของเขา พันธกรที่ดีหลายคุณในยุคนี้ เอพิสโคพาเลี่ยน, เพรสไบทีเรียน, ลูเทอแรน, แบ๊บติสต์, เพนเทคอสต์ และอื่นๆ จะผ่านมันไป “พวกสำนักงานใหญ่ของผมเป็นผู้ที่จะไม่ให้ผมกระทำมัน” มันล้มเหลวครับ
มันกำลังล้มเหลวอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ ผมไม่ได้กำลังถามพวกเอสเซมบลีย์ อ๊อฟ ก็อด, วันเนส, เชิร์ช อ๊อฟ ก็อด, เมธอดิสท์, แบ๊บติสต์, เพรสไบทีเรียน ผมถามพวกคุณเป็นรายบุคคล คุณจะทำอะไรกับพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ครับ? พวกเราจะทำอะไรกับพระวจนะของพระเจ้าซึ่งได้รับการเจิมนี้ที่อยู่ต่อหน้าพวกเราในวันนี้ ซึ่งพวกเรารู้ว่าทรงเป็นพระคริสต์ พระสัญญาของเวลานี้เล่าครับ?
พวกคุณจะทำอะไรกับมันเล่าครับ? ไม่ใช่สิ่งที่คริสตจักรของพวกคุณกระทำกับมัน ซีซาร์ของพวกคุณและเฮโรดของพวกคุณไม่มีอะไรจะทำกับมัน นั่นไม่ได้แก้ตัวให้ปีลาต ไม่ครับคุณ ไม่ครับคุณ พวกเขาพวกฟาริสีในยุคนั้นกล่าวว่า “ให้โลหิตของเขาจะอยู่กับพวกเราและลูกหลานของพวกเรา" มันเป็นสิ่งนั้นอย่างแน่นอน
พระเยซูทรงบอกอะไรกับพวกเขาเล่าครับ? "ท้องฟ้านั้นคุณทั้งหลายยังรู้จักสังเกตและเข้าใจ แต่หมายสำคัญแห่งกาลเวลานี้พวกคุณกลับไม่เข้าใจ"
ไม่ครับ ผมจะไม่เทศนาเรื่องนี้สำหรับเมืองฟีนิกซ์ แต่ผมเทศนาสำหรับทุกหนแห่งที่มันต้องการจะไป “พวกคุณฟาริสีตาบอดทั้งหลาย” พวกคุณสามารถใช้เงินหลายล้านดอลลาร์ได้อย่างไรครับ? พวกคุณสามารถมองเห็นคอมมิวนิสต์ได้ แต่พระวจนะของพระเจ้า-ได้พิสูจน์ให้เห็นถึง ณ เวลาที่พวกคุณไม่สามารถมองเห็นได้ พวกคุณกำลังตรึงพระองค์อีกครั้งหนึ่ง!
พวกคุณรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ ถ้าหากพวกคุณรู้พระคัมภีร์ไบเบิลของพวกคุณ พวกคุณจะรู้สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น นั่นไม่น่าสนใจสำหรับผม ผมเกลียดคอมมิวนิสต์! ผมเกลียดทุกสิ่งที่ต่อต้านพระเจ้า! แต่สิ่งที่ผมสนใจคือเรื่องนี้-คริสตจักรกำลังเตรียมพร้อมสำหรับ ณ เวลานี้ เพื่อการจากไปของเจ้าสาว ท้องฟ้านั้นรู้จักสังเกตและเข้าใจ แต่หมายสำคัญแห่งกาลเวลานี้พวกคุณกลับไม่เข้าใจ
และในการทดลองของพระองค์ในวันนี้ ในขณะที่ศาลของรัฐบาลกลางเพื่อให้สภานี้ของพวกคริสตจักรและทุกสิ่งทุกอย่าง...พวกคุณสามารถเข้าใจคอมมิวนิสต์และทุกสิ่งเหล่านี้ที่พวกนักเทศน์กำลังเทศนาอยู่และกำลังเดินตรงไป ณ หมายสำคัญทั้งหลายของเวลานี้และเรียกมันว่า ลัทธิบ้าคลั่ง เรียกว่า กระแสจิต หรือบางสิ่งที่เหมือนอย่างนั้นและเดินออกไป และห้ามไม่ให้ผู้คนของพวกคุณที่จะมาหรือแม้แต่ได้ยินมัน! ถ้าหากประวัติศาสตร์ไม่ได้ซ้ำรอยตัวเอง ผม...ชื่อของผมก็ไม่ใช่ วิลเลี่ยม บรานฮาม แน่นอนครับ!
สิ่งใดจะเกิดขึ้นเล่าครับ? มันจะพ่นพระโลหิตของพระเยซูคริสต์กลับไปในมือของพวกคุณ และพวกคุณเรียกมันว่า ผีโสโครก เหมือนที่พวกเขาเรียกทั่วทุกมุมโลก-ผมคิดว่าพวกคุณทราบว่าผมหมายถึงสิ่งใด ทุกหนแห่ง
ทำไมพวกคุณจึงปฏิเสธผมในสวิตเซอร์แลนด์เล่าครับ? เหตุใดพวกคุณจึงทำมัน, ฟินแลนด์? พระโลหิตจะอยู่ในมือของพวกคุณเอง สิ่งนั้นอยู่บนพวกคุณ ไม่ใช่ผม พวกคุณไม่เคยปฏิเสธผม พวกคุณปฏิเสธพระองค์ ไม่ใช่ผม เพราะพวกคุณกล่าวว่า “ผมไม่เชื่อในเรื่องดังกล่าว" พระวจนะกล่าวไว้ดังนั้น นั่นแหละครับคุณ ฟาริสีตาบอดทั้งหลาย พวกเขาสามารถมองเห็นคอมมิวนิสต์มองเห็นสิ่งเหล่านี้ แต่ ณ เวลาที่พวกเขากำลังมีชีวิตอยู่ พวกเขาไม่สามารถมองเห็นมันได้ นั่นแน่นอนครับ
ตอนนี้มันจะไปถึง...ของมัน เป้าหมายสุดท้ายของผมอีกครั้ง วิกฤตกาลอยู่ที่นี่อีกครั้งหนึ่ง มันคืออะไรเล่าครับ? ตรึงพระองค์!
"พวกเราจะทำ...พวกเราไม่สามารถทำให้พวกเขาทั้งหมดเป็นเมธอ ดิสท์ได้, พวกเราไม่สามารถทำให้พวกเขาทั้งหมดเป็นแบ๊บติสต์ได้, พวกเราไม่สามารถทำให้พวกเขาทั้งหมดเป็นวันเนสได้, พวกเราไม่สามารถทำให้พวกเขาทั้งหมดเป็นตรีเอกานุภาพได้, พวกเราไม่สามารถทำให้พวกเขาทั้งหมดเป็นพวกนี้, พวกนั้น, หรือพวกอื่นๆ ได้ แต่พวกเราสามารถมีสภาหนึ่งได้”-สถานที่ที่พวกคุณไม่เห็นด้วยตราบเท่าที่ทิศตะวันออกห่างจากตะวันตกและทุกสิ่งทั้งหมดผิด มันเป็นบริวารไปยังกรุงโรม นั่นแน่นอนครับ
ตอนนี้ในฐานะปัจเจกบุคคล ผมจะขอให้คุณ คุณจะทำอะไรกับพระวจนะที่ได้รับการเจิมนี้ซึ่งเป็นพระคริสต์ พระวจนะได้สัญญาไว้สำหรับวันนี้หรือ? คุณในฐานะปัจเจกบุคคล?
ปีลาต มันไม่เคยหลุดออกจากมือของเขา พวกคุณทราบครับ เขาร้องเสียงดังร้องไห้ และทุกวิธีที่เขาจะทำได้ เขาล้มเหลวที่จะทำมัน มีตำนานที่เกิดขึ้นในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สถานที่ที่มีชำระล้างสีเขียว, หรือสีฟ้า สถานที่ที่เขาฆ่าตัวตาย พวกคุณอาจจะทราบประวัติของมัน ในที่สุดเขาก็บ้าและเขาก็ฆ่าตัวตาย
เหตุใดเขาจึงไม่ได้กลับใจเล่าครับ? เขาไม่สามารถกลับใจได้ เอซาวก็ไม่กลับใจ เขาได้กระทำมัน พวกคุณจะให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับพวกคุณหรือครับ พระองค์ทรงอยู่บนมือของพวกคุณ พระราชกิจที่เสร็จสิ้น, พระคัมภีร์ไบเบิลได้เทศนา, พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้รับการพิสูจน์แล้ว, คนบาปทุกคน, คุณกล้าที่จะบอกว่ามันไม่เป็นเช่นนั้นหรือครับ พระวิญญาณบริสุทธิ์ในยุคสุดท้ายนี้, และถ้อยคำที่ได้เทศนากล่าวว่ามันจะมาถึง และนี่ก็เป็นต่อหน้าพวกเรา จงอย่าพยายามที่จะทำมัน จงอย่าปล่อยให้บั้นปลายของพวกคุณเป็นเหมือนปีลาต ไม่ครับ เขาควรจะยอมรับพระองค์ในจิตใจของเขา นั่นเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่คุณจะสามารถล้างพระองค์ออกจากมือของคุณได้คือ รับพระองค์ไว้ในจิตใจของคุณ โอ้ จงอย่าทำผิดพลาดเหมือนอย่างนั้น
ฟังครับ พระธรรมฮีบรู บทที่ 10 ข้อนี้บอกว่า "ถ้าเรายังจงใจทำบาปอยู่เรื่อยๆ (จงใจไม่เชื่อ) หลังจากได้รับความรู้เรื่องความจริงแล้ว ก็จะไม่มีเครื่องบูชาลบบาปเหลืออยู่เลย" ถ้าพวกคุณจงใจทำบาปหลังจากได้รับการพิสูจน์ให้กับพวกคุณและจากนั้นพวกคุณปฏิเสธ แน่นอนว่าคุณ...ไม่มีโอกาสกลับใจเหลืออยู่เลย (เพียงหนึ่งนาทีครับ ผมมีโน้ตที่นี่ผมต้องการที่จะนำมาให้พวกคุณก่อนที่จะปิด)
เหมือนพวกผู้สอดแนม...บนถนนไปยังดินแดนพระสัญญา พวกเขาอยู่ในการอพยพออกมาจากอียิปต์ด้วยพระสัญญาของพระเจ้า พระเจ้าทรงกระทำให้พระวจนะของพระองค์เป็นที่รู้จักกันโดยผู้เผยพระวจนะโมเสส – ทรงส่งเขาลงไปที่นั่น เขาได้รับการพิสูจน์และเขาก็เป็นพระที่จะนำพวกเขาออกมาภายใต้เงื่อนไขที่เขาได้รับพระสัญญา – พระเจ้าผู้ที่เราเป็น เมื่อพวกเขามาถึงชายแดนที่เมืองคาเดชบารเนีย, ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่พวกเขาได้ทำ...เมื่อพวกเขาไปถึงที่ดินแดนนั้นและมองไปยังดินแดนที่พวกเขากล่าวว่า “พวกเราไม่สามารถได้รับมัน” แล้วสิบคนอื่นเป็นอะไรเล่าครับ? พวกเขามองไปที่สถานการณ์ ศักดิ์ศรีที่พวกเขาจะสูญเสีย "พวกเราเป็นพวกตั๊กแตนที่อยู่ด้านข้างของพวกเขา"
แต่โยชูวาและคาเลบได้ตรวจสอบ พวกเขาก็กลับไปที่พระวจนะของพระเจ้าที่กล่าวว่า "เราให้แผ่นดินนี้แก่คุณ แผ่นดินซึ่งมีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์" พวกเขาไม่ได้นับสิ่งที่พวกเขาดูเหมือน สิ่งนี้เป็นสิ่งใด และสิ่งที่เป็นเครื่องพิสูจน์สิ่งนี้คือ พระวจนะของพระเจ้ากล่าวว่า "เราให้มันแก่พวกคุณ จงไปรับมัน" และพวกเขาก็เป็นพวกเดียวเท่านั้นที่ได้เข้าไป
โอ้ ขอให้พวกเราตรวจสอบพระสัญญาทั้งหลายของพระเจ้าสำหรับยุคนี้ นั่นแหล่ะครับ โปรดจำไว้ว่าพวกเราอยู่ในการอพยพอีกเวลาหนึ่ง เวลา ... การอพยพครั้งนี้ไม่ได้เข้าไปยังดินแดนพระสัญญาของโลก แต่เข้าไปยังดินแดนแห่งพระสิริ สถานที่ที่ไม่ต้องกลับมาอีก ขอพระสิริมีแด่พระเจ้า พวกเรากำลังจะอยู่ที่นั่นครับ! (จุดว่างบนเทป) พวกคุณจะทำมันในขณะที่พวกเราก้มศีรษะของพวกเราลงไหมครับ?
ผมจะถามคำถามนี้ในขณะที่บุรุษและสตรีทุกคุณยังคงอยู่ครับ พวกคุณจะทำอะไรกับพระเยซูนี้ที่เรียกว่าพระคริสต์ พวกคุณจะยอมรับพระองค์ พวกคุณจะยอมรับพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกคุณหรือไม่ครับ พวกคุณจะเป็น...หรือพวกคุณจะล้างพระองค์ออกจากมือของพวกคุณหรือครับ พวกคุณพยายามที่จะล้างออกหรือครับ “ดีล่ะ ความเชื่อของผมไม่ได้พูดแบบนี้ หรือคณะนิกายของผมไม่เชื่อเหมือนสิ่งนั้น” มันอยู่ในมือของพวกคุณ พวกคุณไม่สามารถหนีไปจากมันได้ครับ พวกคุณจะทำอะไรกับพระเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์ โลหิตของพระองค์อยู่ในมือของพวกคุณตั้งแต่สัปดาห์นี้ในการประชุม
ให้พวกเราอธิษฐาน พระเยซูเจ้าขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายในเวลานี้ ณ ชั่วโมงนี้ ขอพระคุณและพระเมตตาของพระองค์อยู่กับข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอให้ที่ประชุมนี้เห็น พระบิดา พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและไม่มีผู้ใดนอกจากพระองค์ ขอฤทธานุภาพของพระเจ้าในเวลานี้ พระวจนะพิสูจน์พระองค์เองในผู้คนเหล่านี้ว่า มันอาจจะเป็นที่รู้จักกันว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและข้าพระองค์ได้บอกความจริงแล้ว พระบิดา ผมได้กระทำมันแล้ว สิ่งนี้ที่เป็นพระบัญชาของพระองค์ ดั่งที่เอลียาห์ได้กล่าวไว้นานมาแล้วว่า “ข้าพระองค์ได้ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นตามพระดำรัสของพระองค์” โปรดประทานเถิด พระบิดา มันจะเป็นเช่นนั้น ในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน
ในเวลานี้ด้วยศีรษะของพวกคุณที่ก้มลงทุกคน พระวิญญาณบริสุทธิ์เพิ่งจะทรงหยุดผมไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เมื่อผมเริ่มอธิษฐาน พระองค์ตรัสว่า “มีบางคนที่นี่ที่ยังไม่รู้จัก" พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์อาจจะไม่ทิ้งอะไรไว้ให้พวกคุณ...พระองค์อาจจะโยนมันกลับมาอยู่ในตักของพวกคุณวันนี้ จากนั้น
พวกคุณผู้คนที่เจ็บป่วยที่นี่ (ผมไม่เคยทำแบบนี้ในที่ประชุมพวกนักธุรกิจ) พวกคุณผู้คนที่เจ็บป่วยที่นี่ที่เชื่อพระเจ้าและเชื่อว่าพวกคุณมีความเชื่อที่จะสัมผัสฉลองพระองค์...และพวกคุณจำพระคัมภีร์ไบเบิลในพระธรรมฮีบรู บทที่ 4 กล่าวว่า "พระวจนะของพระเจ้าคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งแยกจิตและวิญญาณ" พวกเราทุกคนทราบข้อนั้นครับ พวกคุณเชื่อหรือไม่ครับ? พวกคุณจะอธิษฐานไหมครับ? อย่าให้คนหนึ่งออกไปในเวลานี้ ขอให้ทุกคนเคารพบูชาจริงๆ, เงียบจริงๆ, เงียบจริงๆ, อธิษฐานครับ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเวลานี้ทรงนำข้าพระองค์ทั้งหลายไปสู่สิ่งที่ต้องกระทำและสิ่งที่จะทูลขอนี้สำหรับวิกฤตกาลนี้คือในเวลานี้ที่นี่อีกครั้งหนึ่ง
พระเยซูเจ้า มันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ข้าพระองค์ขอมอบตัวของข้าพระองค์แด่พระองค์ โยนมันกลับมาที่ตักของพวกเขา พระบิดา แน่นอนว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ตรัสกับข้าพระองค์ที่นี่ สิ่งใดถูกต้องและไม่ถูกต้อง และข้าพระองค์ทราบว่าเทปนี้จะตอบสนองความต้องการจำนวนมากออกไปที่นั่น และข้าพระองค์อธิษฐานทูลขอพระองค์ที่จะทรงให้มันเป็นที่รู้จักกันในวันนี้ที่ข้าพระองค์ได้บอกความจริงแก่พวกเขา และข้าพระองค์ได้ถูกส่งมาเพื่อการนี้ ดั่งที่พระองค์ตรัสที่แม่น้ำเวลานั้นเมื่อทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ยืนอยู่ที่นั่นในเสาเพลิง ขอทรงให้มันเป็นที่รู้จักกันในวันนี้ที่ข้าพระองค์ได้บอกความจริงผ่านพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน
ให้ยกศีรษะของพวกคุณขึ้นในเวลานี้ มองดูทางนี้และพวกคุณอย่าสงสัย พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาของพวกเรา เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงยืนอยู่ที่นี่บนโลกใบนี้...เมื่อพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว พระองค์ก็ทรงเยียวยารักษาผู้ป่วย พระองค์ทรงช่วยผู้ที่หลงหายได้รับความรอด พวกคุณเชื่อเรื่องนั้นไหมครับ? แต่เมื่อพระองค์ทรงอยู่ที่นี่ พวกเขารู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ใดได้อย่างไรเล่าครับ? เพราะพระองค์ทรงเป็นพระวจนะ มีกี่คุณครับที่ทราบว่าเรื่องนั้นเป็นจริง? พระองค์ทรงเป็นพระวจนะ และพระวจนะวินิจฉัยความคิดที่อยู่ในจิตใจ ใช่ไหมครับ?
ผมไม่สามารถเห็นคนในตึกนี้ตอนนี้ได้ ผมรู้จักบรรดาศิษยาภิบาลเหล่านี้และคุณทั้งหลายที่นี่ หรืออาจจะเป็นบราเดอร์โรเบิร์ตส์อยู่ที่นี่ ผมจะให้เขาเริ่มแถวอธิษฐานครับ บราเดอร์โรเบิร์ตส์กลับมาอยู่ในที่นั่นหรือไม่ครับ? ไม่อยู่ที่นี่ครับ ใช่ครับ พันธกิจของผมจะทำสำหรับครั้งนี้
ผมขอท้าทายพวกคุณในพระนามของพระเยซูคริสต์ที่จะเชื่อผมว่า ผมได้บอกความจริงเกี่ยวกับพระวจนะและเชื่อว่าสิ่งที่ผมได้เทศนาเป็นความจริง พวกคุณจะทำเช่นนั้นไหมครับ? โปรดประทานเถิด พระบิดา โปรดประทานเถิด
มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่นี่ ผมต้องการให้พวกคุณเปิดตาของพวกคุณ พวกคุณไม่สามารถมองเห็นแสงสว่างทีกำลังส่องอยู่ที่นั่นหรือครับ? มีชายผู้หนึ่งนั่งอยู่ที่นั่นมองมาที่ผม กำลังอธิษฐานอยู่ เขากำลังทุกข์ทรมานกับปัญหาปอดและความอ่อนแอ อย่าพลาดครับ คุณ คุณคารร์ ลุกขึ้นและยอมรับการรักษาเยียวยาของคุณ พระเยซูคริสต์ทรงกระทำให้คุณหายดี ผมไม่เคยพบชายผู้นี้ในชีวิตของผม
มีผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังที่นั่น ดีมากครับ คนที่กำลังอธิษฐานอยู่ด้วย แต่เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนั้นเล่าครับ? ผู้ชายคนนั้นที่นั่นมีปัญหาเกี่ยวกับตา เขาก็มีการเจริญเติบโตในด้านซ้ายของเขา ชื่อของเขาคือคุณบาร์เร็ต พวกคุณเชื่อหรือไม่ครับ? ใช่ครับท่าน? ผมเป็นคนแปลกหน้าต่อคุณหรือครับ? โบกมือของคุณครับ พวกเราทุกคนเป็นคนแปลกหน้า ใช่ครับ ขอพระเจ้าอวยพรคุณ จงเชื่อ – คุณจะได้รับการเยียวยารักษาโรค
คุณเชื่อไหมครับ? (คุณจะบอกเรื่องนั้นแก่เขาอย่างไรเล่าครับ?) คุณเชื่อว่าผมเป็นผู้เผยพระวจนะของพระองค์หรือไม่ครับคุณ? ใช่ครับท่าน คุณกำลังทุกข์ทรมานกับอารมณ์เสียในฝ่ายวิญญาณ อารมณ์เสียนิดหน่อยในการดำเนินธุรกิจและสิ่งทั้งหลาย นั่นแหล่ะครับ นั่นแหล่ะครับ คุณคลอว์สัน คุณเชื่อด้วยสุดจิตสุดใจทั้งหมดของคุณที่พระเยซูจะทรงยืดมันออกสำหรับคุณหรือไม่ครับ? นั่นเป็นชื่อของคุณหรือครับ สถานที่ของคุณหรือครับ ใช่ครับ คุณสามารถได้รับในสิ่งที่คุณทูลขอ อาเมน
ใครบางคนที่นี่เชื่อ อาเมน บางคนที่เชื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเที่ยงแท้
คุณวอล์ดรอฟฟ์ ผมเห็นว่า...ผมรู้ว่าคุณ ไม่ครับ มันไม่ใช่สำหรับคุณ มันสำหรับทารกนั้นและทารกที่เป็นเหลนชายของคุณ ผมไม่เคยเห็นเขาในชีวิตของผม นั่นคือความจริง ความทุกข์ทรมานของทารกที่มีปัญหาตาที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ที่เขามี พระเจ้าตรัสดังนี้ คุณเชื่อ
สุภาพสตรีคุณเจ็บป่วยมากคุณกระวนกระวายมีปัญหากระเพาะอาหารจนเกือบประสาท คุณเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงรักษาเยียวยาคุณไหมครับ? แมรี่ จงเชื่อด้วยสุดจิตสุดใจทั้งหมดของคุณและพระเยซูคริสต์จะประทานตามความปรารถนาของคุณ
พระองค์ทรงอยู่บนตักของคุณ! ที่นี่สาวน้อยนั่งอยู่ที่นี่กำลังอธิษฐาน มองมาที่ผม ก้มศีรษะลง เงยขึ้นและมองมาที่ผม คนดี คุณไม่ได้มาจากที่นี่ คุณมาจากที่ที่ไกลออกไปจากที่นี่ นิวยอร์ก แต่ถ้าคุณจะเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงกระทำให้คุณหายดี พระองค์จะทรงให้บัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่คุณ คุณเชื่อเรื่องนั้นไหมครับ? คุณไบรอันจากนิวยอร์ค เชื่อด้วยสุดจิตสุดใจทั้งหมดของคุณและคุณจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเวลานี้
มันอยู่ในตักของคุณ เพื่อนๆ ครับ พวกคุณเชื่อหรือไม่ครับ? พระวจนะกำลังกระทำการสำแดงพระองค์เองอย่างชัดเขน พวกคุณเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นเหมือนเดิมเช่นเมื่อวานนี้, วันนี้และสืบๆ ไปเป็นนิตย์หรือไม่ครับ? ผมไม่รู้จักผู้คนเหล่านี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาผม ผมไม่รู้จักผู้คนเหล่านี้ พระเยซูคริสต์ทรงรู้จักพวกเขา
พวกคุณจะทำอะไรกับพระวจนะที่ได้รับการเจิมนี้เล่าครับ? ดั่งที่พระองค์ตรัสว่า “เพราะว่าสมัยของเมืองโสโดมเคยเป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้น" ถ้าข้อนี้เป็นจริง คำเทศนาที่ผมเทศนาก็เป็นจริง เป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์พระองค์เองทรงกระทำการตีความด้วยพระองค์เองว่ามันถูกต้อง อาเมน! เชื่อด้วยสุดจิตสุดใจทั้งหมดของพวกคุณ พวกคุณจะทำอย่างนั้นไหมครับ? ลุกขึ้นยืนบนเท้าของพวกคุณจากนั้นและยอมรับพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์
ในขณะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตอยู่ที่นี่ ผมต้องการที่จะวางมือบนผ้าเช็ดหน้าเหล่านี้ที่นี่ ขอให้ยกมือของพวกเราแด่พระคริสต์
พระเยซูเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายเชื่อว่าพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายทรงรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นความจริงและแสงสว่างแห่งพระวจนะ ข้าพระองค์วางมือของข้าพระองค์ลงบนผ้าเช็ดหน้าเหล่านี้ ข้าพระองค์อธิษฐาน พระเยซูเจ้า ขอฤทธานุภาพของพระองค์จะล้อมรอบอยู่ในอาคารหลังนี้ผ่านผ้าเช็ดหน้าเหล่านี้ เหนือเสื้อโค้ตตัวเล็กและเสื้อผ้าเหล่านี้ และขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมายังพวกเขา พระบิดา โปรดประทานเถิด พระบิดา และขอให้พวกเขาได้รับการเยียวยารักษาโรคในทุกๆ คนของพวกเขา เพราะพระวจนะของพระองค์ทรงเป็นความจริง โปรดประทานเถิด พระบิดา
ในเวลานี้สำหรับทุกคนในการประชุม พวกคุณจะทำอะไรกับพระเยซูนี้ที่เรียกว่าพระคริสต์? พระองค์ทรงอยู่ในมือของพวกคุณ อย่าปล่อยให้ผู้คนบอกพวกคุณ...ผมหมายถึงผู้คนในเทปนี้ ผู้คนข้างนอกที่นี่ในกลุ่มผู้ชม พวกคุณจะทำอะไรกับพระองค์ในวันนี้? เหตุใดพวกคุณไม่ยอมรับพระองค์เล่าครับ? ทุกคุณที่เจ็บป่วยในที่นี่, บุรุษทุกคุณที่สงสัยในที่นี่ที่, สตรีทุกคุณที่สงสัย เหตุใดพวกคุณไม่ยอมรับพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกคุณเล่าครับ? พวกคุณจะล้างพระโลหิตของพระองค์ออกไปจากมือของพวกคุณไม่ได้ ลัทธิของพวกคุณจะล้างพระองค์ออกไปไม่ได้ ไม่มีสบู่มากเพียงพอในประเทศที่จะล้างมันได้ครับ เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่พวกคุณสามารถกระทำได้ - รับพระองค์ไว้ในจิตใจของพวกคุณ คุณหนึ่งคุณใด – พวกคุณจะยอมรับพระองค์หรือไม่ครับ? ยกมือของพวกคุณแล้วและพูดว่า "ขอคำสรรเสริญและพระสิริจงมีแด่พระองค์"
พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ พวกเขาเป็นของพระองค์ พระวจนะของพระองค์ได้รับการพิสูจน์ ผู้คนเหล่านี้เป็นของพระองค์ ข้าพระองค์ขอมอบพวกเขาแด่พระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน ให้ยกขึ้นมือของพวกคุณขึ้นในเวลานี้ และสรรเสริญพระองค์ และข้าพระองค์ขอมอบเขาไว้แด่พระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์